ข่าว

เพิกถอนคำสั่งอนุญาโตฯ ทรู ไม่ต้องจ่ายคืน ทีโอที กว่าพันล้าน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คณะรัฐมนตรีมีมติยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี โดยกำหนดให้คู่สัญญาแต่ละฝ่ายต้องเสียภาษีสรรพสามิตตามจำนวนรายรับที่แต่ละฝ่ายได้รับ บมจ.ทีโอที (ผู้คัดค้าน)

เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2561 ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ 1615/2557 และคดีหมายเลขดำที่ 498/2559 ซึ่งบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ร้อง ขอให้ศาลเพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ผู้คัดค้าน ขอให้บังคับตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ สำนักงานศาลยุติธรรม ที่ชี้ขาดให้ผู้ร้อง (บมจ.ทรูฯ) ชำระเงินตามสัญญาร่วมการงานและร่วมลงทุน เพื่อขยายบริการโทรศัพท์ฯ แก่ผู้คัดค้าน (บมจ.ทีโอทีฯ)

กรณีสืบเนื่องมาจาก บมจ.ทรูฯ ได้ทำสัญญาร่วมการงานและร่วมลงทุนเพื่อขยายบริการโทรศัพท์ฯ กับ บมจ.ทีโอที ต่อมามีการตราพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 , พ.ศ. 2546 และพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2546 โดยกำหนดให้เรียกเก็บภาษีสรรพสามิตจากกิจการโทรคมนาคม คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2546 และเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2546 ให้ความเห็นชอบแนวทางการดำเนินการหักค่าภาษีสรรพสามิตออกจากส่วนแบ่งรายได้ ที่คู่สัญญาภาคเอกชนจะต้องชำระให้แก่คู่สัญญาภาครัฐ บมจ.ทีโอทีฯ จึงหักเงินจากส่วนแบ่งรายได้ของ บมจ.ทีโอที ส่งให้ บมจ.ทรูฯ เพื่อนำไปชำระภาษีสรรพสามิตตามมติคณะรัฐมนตรี จำนวน 1,479,621,120.89 บาท

 

แต่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2550 ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2546 และวันที่ 11 ก.พ. 2546 โดยกำหนดให้คู่สัญญาแต่ละฝ่ายต้องเสียภาษีสรรพสามิตตามจำนวนรายรับที่แต่ละฝ่ายได้รับ บมจ.ทีโอที (ผู้คัดค้าน) จึงเรียกร้องให้ บมจ.ทรูฯ ผู้ร้อง คืนเงินดังกล่าว ซึ่งคณะอนุญาโตตุลาการชี้ขาดให้ บมจ.ทรูฯ ผู้ร้อง คืนเงินจำนวน 1,217,505,724.17 บาท แก่ บมจ.ทีโอที ผู้คัดค้าน

ศาลปกครองกลางเห็นว่า มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2546 และเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2546 มิใช่มติที่มีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมายตามมาตรา 150 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ การที่คณะอนุญาโตตุลาการมีคำวินิจฉัยชี้ขาดให้ บมจ.ทรูฯ ผู้ร้องชำระเงินผลประโยชน์ตอบแทนตามสัญญาแก่ผู้คัดค้าน (บมจ.ทีโอที) จึงเป็นคำวินิจฉัยชี้ขาดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่เป็นไปตามข้อตกลงแห่งสัญญาพิพาท และการบังคับตามคำชี้ขาดดังกล่าว ย่อมเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน

ศาลมีอำนาจเพิกถอนคำชี้ขาดได้ตามมาตรา 34 วรรค 4 และมาตรา 40 วรรค 3(2)(ข) แห่งพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ. 2545 จึงมีคำพิพากษาเพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ และปฏิเสธการขอบังคับตามคำชี้ขาดดังกล่าว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ