ข่าว

ชี้"มาสเตอร์แอด" อีก2ปีคุมสื่อโฆษณาอาเซียนเบ็ดเสร็จ 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 บล.กสิกรแนะลงทุนใน"มาสเตอร์แอด" ชี้อีก2ปีคุมสื่อโฆษณาอาเซียนเบ็ดเสร็จ 

 

             บล.กสิกรไทย แนะนำ “ซื้อ” หุ้นมาสเตอร์แอด(MACO) โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 2.19 บาท มีมุมมองบวกต่อผลประกอบการในครึ่งปีหลังของ MACO ที่มีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมโฆษณา จากกลยุทธ์การปรับเปลี่ยนป้ายภาพนิ่งไปสู่ป้ายดิจิทัล เชื่อว่าผู้ถือหุ้นจะมีมติอนุมัติการซื้อ VGM และสนับสนุนให้ผู้ถือหุ้นเดิมของ MACO ใช้สิทธิ์เพิ่มทุนเพื่อที่ MACO จะได้นำเงินทุนที่ได้ไปขยายธุรกิจที่ต่างประเทศ ซึ่งเมื่อผู้ถือหุ้นใช้สิทธิเพิ่มทุนจะได้รับ maco-w2 ด้วย 2 หน่วยแถมไปด้วย ทั้งนี้ บล.กสิกรไทย มองว่าปัจจุบันราคาหุ้นของ MACO อาจได้รับแรงกดดันจากการความกังวลในการใช้สิทธิหุ้นเพิ่มทุน และงบไตรมาส 2 ที่ชะลอตัวลงเป็นโอกาสที่ดีในการซื้อสะสม

              จากรายงานเอกสารวิเคราะห์ โดยบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)หรือ บล.กสิกรไทย ระบุว่าจุดเด่นในการลงทุน บริษัท มาสเตอร์แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสื่อโฆษณานอกบ้านรายใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ โดยมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือบริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI Global Media PCL (VGI) สัดส่วนการถือหุ้น 30.38% และ BTS Ground Holdings PCL (BTSG) 18.09% โดยแบ่งลักษณะของสื่อโฆษณาออกเป็น ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่, ป้ายโฆษณาสตรีทเฟอร์นิเจอร์ อาทิ ตอม่อใต้บีทีเอส, ตอม่อสะพานข้าม และดิจิทัลบิลบอร์ด โดยคิดเป็นกำลังการผลิตสื่อที่จะสร้างรายได้ทั้งสิ้นเป็นจำนวนกว่า 1,400 ล้านบาท

           ส่วนการปรับภาพลักษณ์สื่อโฆษณาจากภาพนิ่งเป็นจอดิจิทัล จำนวน 50 จอ คาดว่าจะทำให้สามารถเพิ่มกำลังการผลิตสื่อเฉลี่ยปีละ 11% ในระยะ 3 ปีนี้ จาก 1,400 ล้านบาทในปี 2560 ไปถึง 1,900 ล้านบาท นอกจากนี้คาดว่าเครือข่ายป้ายโฆษณาดิจิทัลขนาดใหญ่ของ MACO และกลยุทธ์การรวมแพ็กเกจสื่อโฆษณาร่วมกับ VGI จะช่วยเพิ่มอัตรากำลังการผลิตสื่อของ MACO และส่งผลให้รายได้ของ MACO เติบโตขึ้นโดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 3 ปี อยู่ที่ 18.3% ต่อปี

           รายงานชิ้นดังกล่าวระบุอีกว่าสำหรับการขยายธุรกิจสื่อ OOH ไปยัง ASEAN  คาดว่าการเข้าลงทุนใน VGI Global Media (Malaysia) Sdn. Bhd. (VGM) ของ MACO นั้น จะเป็นการเลียนแบบธุรกิจที่ประสบความสำเร็จของ VGI ในประเทศไทย ผ่านริเริ่มธุรกิจไปยังสื่อในระบบขนส่งมวลชน (Mass transit media) และสื่อในสนามบิน (Airport media) และขยายต่อไปยังสื่อ OOH อื่นๆ เมื่อพิจารณาจากสัญญาการจัดการสื่อที่มีอยู่ของ VGM ตั้งแต่ปี 2019–2023 นั้นคาดว่า VGM จะสร้างกำไรให้ MACO ประมาณ 1-14% ของกำไรทั้งหมด และมี Fair Value 381 ล้านบาท คิดเป็น 6.1% ของมูลค่าตลาดปัจจุบันของ MACO

              สำหรับการคาดอัตราการเติบโตของกำไร (Core profit growth) เฉลี่ยภายใน 3 ปี ระหว่างปี 2017-2020 คาดว่าจะอยู่ที่ 26.3% (CAGR) โดยมีปัจจัยจากผลกำไรที่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน บริษัท มัลติ ไซน์ จำกัด (MTS); การปรับเปลี่ยนป้ายภาพนิ่งจำนวน 50 ป้าย เป็นป้ายดิจิทัล และอัตรากำลังการผลิตสื่อ (utilization) ที่สูงขึ้น  โดยคาดว่าสัดส่วนรายได้ของ MACO ต่อมูลค่าสื่อโฆษณานอกบ้านรวม จะเพิ่มจาก 7.6% ในปี 2017 เป็น 9.7% ในปี 2020

             ในส่วนการประเมินมูลค่าภาพรวมธุรกิจมีประสิทธิภาพสูงขึ้น บล.กสิกรไทยได้ประเมิน MACO จากผลการดำเนินงานที่ดีกว่าคาดการณ์ โดยแนะนำ “ซื้อ” และให้ราคาเป้าหมายที่ 2.19 บาท จาก 4 ปัจจัย ซึ่งประกอบด้วยการฟื้นตัวของ ADEX ที่แข็งแกร่งในครึ่งปีหลังของปี 2018 และปี 2019 การแปลงป้ายบิลบอร์ดดั้งเดิมให้เป็นดิจิทัลที่กำลังดำเนินการอยู่ การได้รับอนุญาตให้อัพเกรดสื่อประเภทสตรีทเฟอร์นิเจอร์แบบเดิมให้เป็นดิจิทัลในอนาคตและการรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ 

              “ที่ราคาเป้าหมาย 2.19 บาท หุ้น MACO จะเทรดอยู่ที่ระดับ P/E ปี 2018 ที่ 27.2 เท่า และ P/E ปี 2019 ที่ 22.9 เท่า โดยเมื่อรวมผลกระทบจากการที่บริษัทออกหุ้นใหม่เพิ่มทุน หรือขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นและการรับรู้รายได้เพิ่มจากการควบรวม VGM และ Trans.Ad จะทำให้ P/E ของ MACO ในปี 2018 จะเพิ่มขึ้นเป็น 22.6 เท่า ซึ่งนับว่าไม่สูงเมื่อเทียบกับ P/E ที่ 33.8 เท่า ของ PLANB” บทวิเคราะห์ในเอกสารระบุ

            อย่างไรก็ตาม สำหรับความเสี่ยงที่อาจเกิดจากปัจจัยลบที่สำคัญ ได้แก่ การแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงในตลาด OOH ภายในประเทศ ราคาหุ้นที่โดนกดดันจากจากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม การขึ้นภาษีป้าย ตลอดจนความล่าช้าจากการรับรู้รายได้จากการขยายธุรกิจในต่างประเทศ 

            

 นับแต่บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ MACO ก็ได้ส่งอดีตผู้อำนวยการใหญ่สายการเงินที่มีประสบการณ์ในธุรกิจสื่อโฆษณามากว่า 20 ปีอย่าง ศุภรานันท์ ตันวิรัช มาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ก่อนส่งไม้ต่อให้แก่ พุน ฉง กิต (MR.CK) อดีตซีอีโอ โกลเด้น ฮาร์เวสต์(CEO Golden harvest) ซึ่งมีเครือข่ายพันธมิตรในอาเซียน หวังเชื่อมเครือข่ายขยายสื่อโฆษณานอกบ้านสู่ต่างประเทศโดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน

             สำหรับพุน ฉง กิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO เป็นผู้บริหารที่มีความรู้ความสามารถและเข้าใจในธุรกิจสื่อเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในแวดวงเอนเตอร์เทนเมนต์โดยมีประสบการณ์การดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Golden Harvest เป็นระยะเวลากว่า 15 ปี รวมถึงประสบการณ์การเป็น Investment Banker มืออาชีพมายาวนาน 

              นับเป็นเครื่องพิสูจน์ความสามารถในด้านการวางยุทธศาสตร์และวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลในการขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายให้ได้ตามที่วางไว้ นอกจากนี้ยังสามารถประสานความร่วมมือกับพันธมิตรในประเทศเพื่อนบ้านได้ในอีกหลายประเทศ เพื่อขยายฐานสื่อโฆษณาของ MACO ให้ครอบคลุมในอนาคต ซึ่งจะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในอุตสาหกรรมสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยให้แก่ MACO และ VGI ได้อีกด้วย 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ