ข่าว

"เทลสกอร์" เร่งพัฒนาแพลตฟอร์มเจาะตลาดต่างประเทศ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"เทลสกอร์" เร่งพัฒนาแพลตฟอร์มเจาะตลาดต่างประเทศ

 

             บริษัท เทลสกอร์ จำกัด สตาร์ตอัพด้านไมโครอินฟลูเอนเซอร์ (Micro-Influencers) ที่ให้บริการสร้างแคมเปญออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มอินฟลูเอนเซอร์แมเนจเมนต์ (Influencer Management) ด้วยเทคโนโลยี ที่ทันสมัยแห่งแรก          ในประเทศไทย ประกาศความสำเร็จโดยเติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วยยอดขาย 40 ล้านบาทหลังจากเปิดให้บริการเพียง 6 เดือน ตั้งเป้าขยายตลาดไปยังต่างประเทศภายในปี 2562


               สุวิตา จรัญวงศ์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เทลสกอร์ จำกัด กล่าวว่า “บริษัทฯก่อตั้งเมื่อปี 2559 ภายใต้แนวคิดในการเป็นทางเลือกใหม่ให้กับ นักสื่อสารการตลาด แบรนด์ และเอเจนซี่โฆษณา โดยมุ่งเน้นไปที่การใช้การสื่อสารจากบุคคลไปยังบุคคลหรือเรียกอีกอย่างว่า ไมโครอินฟลูเอนเซอร์ ในลักษณะ การสื่อสารแบบตัวต่อตัวไปยังมวลชน (Mass One-to-One Communication) ซึ่งมีข้อดีในเรื่องของความน่าเชื่อถือ และความน่าสนใจด้วยการใช้บุคคลจริงๆในการสื่อสาร ปัจจุบัน เทลสกอร์ มีพาร์ทเนอร์ที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์เหล่านี้ตั้งแต่ระดับไมโครอินฟลูเอนเซอร์ (Micro Influencer) ที่มีผู้ติดตามหลักพัน อัพคัมเมอร์อินฟลูเอนเซอร์ (Upcomer-Influencer) ที่มีผู้ติดตามหลักหมื่นไปจนถึงมาโครอินฟลูเอนเซอร์ (Macro-Influencer) ที่มีผู้ติดตามในหลักแสนหรือหลักล้าน

             จุดเด่นของเทลสกอร์ที่แตกต่างจากคู่แข่งคือรูปแบบการให้บริการแบบ มาร์เก็ตติ้ง ออโตเมชั่น (Marketing Automation) ซึ่งสามารถใช้ในการบริหารจัดการอินฟลูเอนเซอร์ได้ครั้งละจำนวนมากๆ สามารถวิเคราะห์สรุปค่าจ้าง และประมาณการผลลัพธ์ ของแคมเปญอินฟลูเอนเซอร์ออกมาก่อนที่จะมีการจ้างงาน                มีเทคโนโลยี ในการตั้งเวลาแคมเปญอัตโนมัติที่สามารถสรุปสถิติ วัดผล ออกมาได้อย่างเที่ยงตรง ที่สำคัญแพลตฟอร์มของเทลสกอร์ยังถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์การใช้งานของทั้งผู้จ้างงานและผู้รับงานอีกด้วย เทลสกอร์ยังได้มีการ จดสิทธิบัตร   เพื่อเป็นการตอกย้ำความมั่นใจให้กับลูกค้าว่า บริษัทฯ จะสามารถสร้างความแตกต่างที่เพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้าได้อย่างแน่นอน เมื่อไม่นานมานี้ เทลสกอร์ ยังได้รับรางวัล Best User Experience หรือรางวัลประสบการณ์ใช้งานดีเยี่ยม จากเวที                       W³ AWARD Silver Winner 2017 จากการตัดสินของคณะกรรมการ AIVA หรือ Academy of Interactive and Visual Arts, New York สหรัฐอเมริกา อีกด้วย” 
              ในปัจจุบันเทลสกอร์ แบ่งรูปแบบการบริการออกเป็น 2 รูปแบบคือ 
1. บริการแบบบริหารจัดการด้วยตนเอง (Self-Managed) ซึ่งเอเจนซี่หรือแบรนด์สามารถเข้าใช้ระบบเพื่อตั้งแคมเปญจ้างงาน อินฟลูเอนเซอร์ เพื่อให้สร้างคอนเทนต์ต่างๆได้เอง
2. บริการบริหารจัดการแคมเปญการตลาดแบบครบวงจร โดยทีมงานของ เทลสกอร์ ซึ่งจะทำหน้าที่ให้คำปรึกษา จัดการแคมเปญ ตลอดจนคัดเลือกอินฟลูเอนเซอร์ และจัดทำรายงานการวัดผลแคมเปญ โดยคิดค่าบริการเพียง 10% เท่านั้น

              สำหรับภาพรวมธุรกิจของบริษัทในไตรมาสที่ผ่านมา สุวิตา จรัญวงศ์ เผยว่า “ถือว่าประสบความสำเร็จมากๆ เนื่องมาจากภาคธุรกิจมีความเข้าใจในการสร้างกลยุทธ์การตลาดด้วยการใช้อินฟลูเอนเซอร์มากขึ้น และปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ แบรนด์ใหญ่ๆหันมาลงทุนกับอินฟลูเอนเซอร์กันอย่างจริงจัง เริ่มมีการทำการตลาดที่รวดเร็วมากขึ้น เพื่อให้สอดรับกับเทรนด์การตลาดในยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เทลสกอร์ เปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2560 ซึ่งหากนับรายได้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 จนถึงปัจจุบัน (6 เดือนล่าสุด) เราสามารถทำยอดขายได้สูงถึง 40 ล้านบาท ซึ่งเรามองว่าตลาดยังมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีกมาก

               ดังนั้นเป้าหมายของการดำเนินธุรกิจของเราในปีนี้ จะเป็นการเน้นการสร้างตลาดภายในประเทศให้แข็งแกร่ง ด้วยการพัฒนาแพลตฟอร์มของเราให้มีฟังก์ชั่นและการใช้งานที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่ครอบคลุมสำหรับลูกค้าที่หลากหลาย ล่าสุดเราพึ่งเปิดตัวฟีเจอร์ UTM Link Tracking เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่เอเจนซี่ และแบรนด์ สามารถวัดผลและตรวจสอบอินฟลูเอนเซอร์ได้ว่า อินฟลูเอนเซอร์คนไหนสามารถสร้าง Engagement, Conversion หรือสามารถนำไปสู่การปิดการขายได้ และภายในปีหน้าเราตั้งเป้าที่จะขยายธุรกิจไปสู่ตลาดต่างประเทศให้ได้ สำหรับในเรื่องของความร่วมมือทางธุรกิจ ในวันนี้เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งเป็นอย่างยิ่งที่จะประกาศผู้ถือหุ้นราย ล่าสุด ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กูรูด้านดิจิทัล และการลงทุน ที่จะมาใช้ความเชี่ยวชาญและความรู้ในด้านเศรษฐกิจดิจิทัลมาช่วยผลักดันให้เทลสกอร์ เติบโตในภาคธุรกิจได้อย่างแข็งแรงยิ่งขึ้น” 


                 ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ผู้ถือหุ้นรายล่าสุดของเทลสกอร์ กล่าวว่า “ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้ามาร่วมทำงานกับ เทลสกอร์ เพราะนอกจากจะเป็นแพลตฟอร์มสำหรับบริหารจัดการอินฟลูเอนเซอร์ที่มีบริการที่ครบวงจรแล้ว ในส่วนของเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในการจัดการแคมเปญและรายงานผลต่างๆนั้นเรียกได้ว่าครอบคลุมและตอบโจทย์ความต้องการของนักการตลาดในยุคดิจิทัลได้เป็นอย่างดี สำหรับเทรนด์การสื่อสารการตลาดในปี 2018 ต้องบอกเลยว่าการใช้ อินฟลูเอนเซอร์ ควบคู่ไปกับการสื่อสารการตลาดในช่องทางอื่นๆยังเป็นเทรนด์ที่มาแรงอยู่ โดยเฉพาะการใช้งาน ไมโครอินฟลูเอนเซอร์นั้นเรียกได้ว่ากำลังเป็นที่นิยม เนื่องมาจากผู้บริโภคในยุคปัจจุบันเริ่มไม่เชื่อในการใช้เซเลบริตี้ในการสื่อสาร เพราะจะมองว่าเป็นการจ่ายเงินเพื่อโฆษณา แต่ในทางกลับกันเมื่อนักการตลาดหันมาจับไมโครอินฟลูเอนเซอร์ ความถี่ในการเข้าถึงกลับเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

            และในปัจจุบันไมโครอินฟลูเอนเซอร์ มีรูปแบบการดำเนินชีวิตหรือไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจเข้าถึงง่าย เรียกได้ว่ามีความเป็นมิตรกับผู้บริโภคมากกว่า เหมือนมีเพื่อนมาแนะนำของที่น่าใช้ให้กับเรา เมื่อต้นปีมานี้ Linqia ได้มีการทำการสอบถามนักการตลาด 200 คน พบว่า 39% มีแผนในการเพิ่มงบการใช้ อินฟลูเอนเซอร์ ในปีนี้เพิ่มมากขึ้น และ 92% กล่าวว่าการใช้อินฟลูเอนเซอร์ ส่งผลให้แคมเปญการตลาดของแบรนด์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เมื่อถามถึงเทรนด์การใช้อินฟลูเอนเซอร์ ในปีนี้พบว่า 52% ของนักการตลาดจะใช้อินฟลูเอนเซอร์ควบคู่ไปกับการใช้ เซเลบริตี้ บล็อกเกอร์ และ             ไมโครอินฟลูเอนเซอร์ อีกด้วย”
              แบรนด์และองค์กรต่างๆที่ต้องการใช้แพลตฟอร์มของเทลสกอร์ในการบริหารจัดการอินฟลูเอนเซอร์ ตลอดจนผู้ที่มีความสนใจในการสมัครเป็นอินฟลูเอนเซอร์ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02 278 5750 หรือ [email protected]  

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ