ข่าว

ศิริสั่งรายงาน ผลสอบจีจีซี น้ำมันปาล์มหาย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศิริสั่งรายงาน ผลสอบจีจีซี น้ำมันปาล์มหาย

 

“ศิริ” สั่ง ปตท.รายงานผลตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีสต็อกน้ำมันปาล์มดิบของบริษัท จีจีซี หายไปมูลค่า 2,100 ล้านบาท ภายใน 1-2 วันนี้ ก่อนวางแนวทางแก้ไข เผย เดือน มิ.ย.จีจีซีไม่แจ้งสต็อกน้ำมันปาล์มให้รัฐ ยืนยันไม่กระทบต่อสต็อกบี 100 พร้อม คิกออฟ ขายบี 20 ให้รถบรรทุกขนาดใหญ่และเรือด่วน

หลังจากเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด(มหาชน) หรือ GGC ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ต่อการลาออกของนายจิรวัฒน์ นุริตานนท์ กรรมการผู้จัดการ โดยมีผลทันที และแจ้งผลตรวจสอบพบสต็อกน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) หายไปคิดเป็นมูลค่า 2,100 ล้านบาท พร้อมเร่งหาตัวผู้เกี่ยวข้องรับผิดชอบต่อไป

นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กรณีน้ำมันปาล์มดิบของบริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทภายในเครือ ปตท.หายไปจากสต็อกนั้น กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างรอผลตรวจสอบข้อเท็จจริงของ GGC ว่าสต็อกน้ำมันปาล์มดิบหายไปจริงหรือไม่ โดยคาดว่า ปตท.และบริษัท GGC จะรายงานกลับมายังกระทรวงพลังงานภายใน 1-2 วันนี้ ซึ่งยืนยันว่า กรณีดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อปริมาณน้ำมันปาล์มดิบในสต็อกและการเดินหน้าโครงการบี 20 แต่อย่างใด

GGC ไม่แจ้งสต็อกน้ำมันปาล์ม

นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า ที่ผ่านมา กรมธุรกิจพลังงานได้ขอความร่วมมือให้ผู้ค้าน้ำมันปาล์มต้องแจ้งปริมาณสต็อกปาล์มที่มีอยู่ทุกเดือน ซึ่งในเดือน มิ.ย. 2561 ที่ผ่านมา มีเพียง GGC เท่านั้น ที่ไม่ได้รายงานสต็อกมาให้กรมธุรกิจพลังงานรับทราบ ซึ่งได้ติดตามแล้วแต่ไม่ได้รับความร่วมมือ และยังรอผลการตรวจสอบของ GGC อยู่เช่นกัน

นายศาณินทร์ ตริยายนท์ นายกสมาคมผู้ผลิตไบโอดีเซล กล่าวว่า หากสต็อกน้ำมันปาล์มดิบของ GGC หายจริง ต้องดูว่าหายไป 71,848 ตันจริงหรือไม่ เพราะจะมีผลกระทบต่อราคาน้ำมันปาล์มในประเทศ โดยหากน้ำมันปาล์มหายไปจากที่ผู้ประกอบการรายงานสต็อกไว้กับภาครัฐที่มีอยู่ 4-5 แสนตัน ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันปาล์มที่มีอยู่จริงเหลือน้อยกว่าสต็อกอาจมีผลให้ราคาน้ำมันปาล์มขยับสูงขึ้น เพราะเห็นว่าของเหลือน้อย แต่หากน้ำมันปริมาณที่หายไปไม่อยู่ในรายงานสต็อกของภาครัฐก็ไม่น่ามีผลต่อราคามากนัก

ทั้งนี้ ในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า ผลผลิตปาล์มจะออกสู่ตลาดอีกครั้ง ซึ่งจะมีผลให้ปริมาณน้ำมันปาล์มในระบบสูงขึ้น และสามารถทดแทนส่วนที่หายไปของ GGC ได้ ก็จะทำให้ไม่มีผลกระทบต่อราคาปาล์ม แต่ทั้งนี้คงต้องรอดูผลการตรวจสอบก่อนว่า น้ำมันปาล์มหายไปจริงหรือไม่ สำหรับ ปัจจุบันราคาผลผลิตปาล์มอยู่ที่ 19 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ (บี 100) อยู่ที่ 22-23 บาทต่อลิตร

สำหรับ การแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยของ GGC เกิดขึ้นหลังจากบริษัทตรวจพบข้อมูลปัญหาในกระบวนการจัดหาวัตถุดิบและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ โดยข้อมูลในระบบของ GGC วันที่ 31 พ.ค.2561 พบว่าจำนวนวัตถุดิบมีจำนวน 71,848 ตัน ซึ่งเป็นส่วนที่บริษัทได้ชำระราคาไปทั้งหมดแล้ว แต่จำนวนวัตถุดิบดังกล่าว แตกต่างจากจำนวนที่มีอยู่จริง ณ สถานที่เก็บรักษาวัตถุดิบที่ฝากไว้กับคู่ค้า

ทั้งนี้ การตรวจพบปัญหาดังกล่าวเป็นผลจากการที่บริษัท มีปริมาณวัตถุดิบคงคลังอยู่ในปริมาณสูง คณะกรรมการบริษัท จึงมีนโยบายให้ฝ่ายจัดการควบคุมปริมาณวัตถุดิบคงคลังให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบ โดยมอบหมายให้คณะกรรมการบริหารความเสี่ยงเป็นผู้ติดตามอย่างใกล้ชิด

 

เอกชนขานรับหนุนใช้บี20

วานนี้ (2 ก.ค.) กระทรวงพลังงานเปิดโครงการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 โดยมีผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7 จำนวน 5 ราย เปิดจุดจำหน่ายพิเศษสำหรับบริการกลุ่มรถบรรทุก, รถโดยสารสาธารณะ และเรือโดยสาร ในราคาต่ำกว่าดีเซลทั่วไป (บี7) อยู่ที่ 3 บาทต่อลิตร

นายศิริ กล่าวว่า โครงการนี้ช่วยแก้ปัญหาน้ำมันปาล์มล้นตลาดและรองรับกรณีน้ำมันโลกปรับสูงขึ้นไปจนถึงสิ้นปีนี้ ดังนั้น ผู้ประกอบการไม่มีความจำเป็นต้องปรับขึ้นค่าขนส่งและค่าโดยสารอีก

 "แต่สิ่งที่ควรระวัง คือประชาชนทั่วไป จะต้องสังเกตสีน้ำมันเพื่อไม่ให้เกิดการใช้ปะปนกันระหว่างบี7และบี 20 โดยหากเป็นดีเซลปกติหรือบี 7 ที่ขายตามปั๊มจะมีสีเขียวเท่านั้น แต่บี 20 จะเติมมาร์คเกอร์เป็นสีแดง ส่วนการที่มีข้อเสนอให้ขยายผลไปใช้กับเครื่องยนต์ทางการเกษตรนั้น ยังมีข้อกังวลเรื่องการลักลอบใช้อยู่” นายศิริ กล่าว

ทั้งนี้ คาดว่าจะช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มดิบได้มากขึ้นอีก 5-6 แสนตันต่อปีหรือจาก 1.3 ล้านตันต่อปีเป็น 2 ล้านตันต่อปีซึ่งเท่ากับปริมาณน้ำมันปาล์มดิบส่วนเกินของประเทศที่มีอยู่

นายทองอยู่ คงขันธ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า รถบรรทุกที่ใช้บี 20 ได้จะเป็นรถยนต์เก่าที่มีอายุการใช้งานมาแล้ว 10-20 ปี และเป็นมาตรฐานยูโร 1-2 ซึ่งตั้งเป้าหมายจะมีกลุ่มรถบรรทุก เข้าร่วมรวม 4 แสนคัน โดยโครงการนี้เป็นการสมัครใจ แต่ที่ยังมีผู้สมัครเข้าร่วมน้อย เนื่องจากเป็นโครงการใหม่ ซึ่งผู้ประกอบการยังไม่เชื่อมั่น ต้องรอผลประเมินการใช้งานสักระยะก่อน

น.ส.จิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก กล่าวว่า ปตท.ได้เข้าร่วมการจำหน่ายบี 20 ให้กับกลุ่มรถบรรทุกขนาดใหญ่เป็นการเฉพาะ โดยเตรียมระบบปฏิบัติการและจุดจ่ายไว้ที่คลังลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งมีการทดสอบการใช้น้ำมันบี20 ตลอดห่วงโซ่แล้ว ซึ่งมั่นใจได้ถึงคุณภาพการใช้บี 20 แล้ว

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ