ข่าว

ปตท.สผ.ปรับแผนลงทุนนอก รอลุ้นประมูลบงกช-เอราวัณ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ปตท.สผ.ปรับแผนลงทุนนอก รอลุ้นประมูลบงกช-เอราวัณ

 

ปตท.สผ.รุกเอ็มแอน์เอต่างประเทศมากขึ้น หากประมูลบงกช-เอราวัณไม่ได้ตามเป้า ขีดเส้น 7 ปี สัดส่วนรายได้ต่างประเทศสูงกว่าในประเทศ ปตท.บุกลงทุนธุรกิจน้ำมัน-ค้าปลีกต่างประเทศเต็มที่ เล็งขยายสาขาอเมซอนในโอมาน-สิงคโปร์ ด้านบ้านปูเพิ่มลงทุนโซลาร์เซลล์ในจีน-ญี่ปุ่น

 

 

ธุรกิจพลังงานของไทยยังคงออกไปลงทุนในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเอเชียที่เป็นเป้าหมายการลงทุนในหลายบริษัท ซึ่งครอบคลุมธุรกิจผลิตปิโตรเลียม การค้าปลีกน้ำมัน ผลิตถ่านหินและการผลิตไฟฟ้า

นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ.เปิดเผยว่า ปตท.สผ.ได้จัดทำแผนธุรกิจ 2025 (พ.ศ.2568) ที่มีเป้าหมายต้องทำให้ธุรกิจของบริษัทเติบโตเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมีการลงทุนสำรวจและผลิตในไทยและต่างประเทศ โดยการลงทุนในประเทศที่สำคัญขณะนี้อยู่ระหว่างการเข้าร่วมประมูลทั้ง 2 แห่ง คือ แหล่งบงกชที่บริษัทเป็นผู้ถือสัมปทานในขณะนี้ และแหล่งเอราวัณ

นายสมพร กล่าวว่า บริษัทได้วางแผนธุรกิจทุกกรณีทั้งกรณีประมูลแหล่งปิโตรเลียมในประเทศได้ 2 แหล่ง ส่วนกรณีที่ประมูลได้ 1 แหล่ง อาจทำให้บริษัทต้องเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับการเติบโตของธุรกิจตามแผนธุรกิจ 2025 โดยเฉพาะการลงทุนในลักษณะการควบรวมและการซื้อกิจการ (เอ็มแอนด์เอ) ภายในภูมิภาค ซึ่งภูมิภาคที่จะให้น้ำหนัก เช่น อาเซียน ตะวันออกกลาง โดยเฉพาะในอาเซียนที่บริษัทมีฐานการผลิตอยู่แล้ว และมีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ดี เพื่อเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียมให้กับธุรกิจ

ทั้งนี้ บริษัทกำลังประเมินการเอ็มแอนด์เอสำหรับการลงทุนใหม่ในมาเลเซีย โดยมาเลเซียเป็นประเทศเพื่อนบ้านแต่ที่ผ่านมาเข้าไปลงทุนไม่มาก และขณะนี้ได้ลงทุนสำรวจและผลิตในมาเลเซีย 3 แปลง โดยเตรียมที่จะเจาะสำรวจในปลายปี 2561 หรือต้นปี 2562

คงแผนผลิตก๊าซโมซัมบิกปี 2566

ส่วนการลงทุนในเมียนมาปัจจุบันมีการผลิตปิโตรเลียมแล้ว 3 โครงการ คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของปิโตรเลียมที่ผลิตในต่างประเทศ และจะลงทุนต่อเนื่องทั้งบนบกและทะเล โดยถ้ารัฐบาลเมียนมาเปิดสัมปทานก็จะไปเข้าร่วม ซึ่งเมียนมาต้องการพัฒนาประเทศจึงเชื่อว่าโอกาสการลงทุนในเมียนมามีแนวโน้มขยายตัว รวมทั้งกำลังมองโอกาสการลงทุนผลิตไฟฟ้าในเมียนมา โดยใช้แก๊ซที่ผลิตได้เป็นเชื้อเพลิงเป็นการลงทุนต่อยอดจากธุรกิจผลิตและสำรวจปิโตรเลียม

สำหรับการลงทุนในโมซัมบิกที่เป็นโครงการใหญ่ ซึ่งได้รับการอนุมัติแผนจากรัฐบาลโมซัมปิกแล้ว และกำลังหาข้อสรุปเกี่ยวกับสัญญาซื้อขายแอลพีจี โดยทางเทคนิคถือว่ามพร้อมดำเนินการแล้ว ซึ่งได้ผู้ประมูลก่อสร้างแล้วครอบคลุมคลังแอลพีจี แท่นขุดเจาะและการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อดูแลชุมชน เช่น ถนน โดยยังคงเป้าหมายเริ่มดำเนินการปี 2561 และเริ่มผลิตก๊าซในปี 2566

นายสมพร กล่าวว่า เป้าหมายการลงทุนในต่างประเทศภายใน 7 ปี ตามแผนธุรกิจ 2025 จะต้องมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศสูงกว่าในประเทศ โดยการลงทุนต่างประเทศคงไม่สามารถแข่งกับบริษัทน้ำมันต่างชาติในเชิงรายได้หรือขนาดธุรกิจได้ แต่มีเป้าหมายเป็นบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมอันดับ 1 ของเอเชียในด้านการบริหารต้นทุน ซึ่งไตรมาส 1 ปีนี้ ควบคุมต้นทุนการผลิตต่อหน่วยที่ 29.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ โดยใช้วิธีควบคุมค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน

ปตท.ตั้งงบ8พันล้านขยายปั๊ม-กาแฟ

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท.จะขยายการลงทุนธุรกิจน้ำมันและค้าปลีกในต่างประเทศ โดยใน 3-5 ปีข้างหน้าจะใช้งบ 8,000 ล้านบาท โดยปีนี้ตั้งงบไว้ 2,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ใช้จ่ายไปแล้ว 15% เพื่อขยายปั๊มในต่างประเทศโดยเฉพาะอาเซียน ซึ่งครึ่งแรกปีนี้ยอดขายน้ำมันในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 5% สูงกว่าในประเทศที่เติบโต 2-3%

ส่วนร้านกาแฟคาเฟ่อเมซอนจะขยายสาขาไปประเทศอื่น เช่น โอมาน 2 แห่ง สิงคโปร์ 1 แห่ง และกำลังเจรจาเปิดที่เซี่ยงไฮ้ รวมถึงจะขยายสาขาในญี่ปุ่นด้วย

สำหรับแผนขยายธุรกิจใน 3-5 ปีข้างหน้านั้น ในส่วนของสถานีบริการน้ำมันมีเป้าหมายใน 4 ประเทศ คือ ลาว, กัมพูชา, เมียนมา, ฟิลิปปินส์ ส่วนร้านกาแฟอเมซอน มีการขยายไปแล้วใน 5 ประเทศ คือ ลาว, กัมพูชา, เมียนมา, ฟิลิปปินส์, และญี่ปุ่น และมีแผนขยายไปต่างประเทศรวมเป็น 14 ประเทศใน 5 ปีข้างหน้า

บ้านปูขยายลงทุนไฟฟ้าจีน-ญี่ปุ่น

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า แผนลงทุนปีนี้เตรียมงบ 182 ล้านดอลลาร์ แบ่งเป็นธุรกิจไฟฟ้า 80 ล้านดอลลาร์ เพื่อขยายกำลังการผลิตและลงทุนธุรกิจโซลาร์เพิ่มในจีนและญี่ปุ่น ส่วนธุรกิจใหม่ Energy Technology Solutions ที่ครอบคลุมธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์และธุรกิจจัดเก็บพลังงานตั้งงบลงทุนไว้ 70 ล้านดอลลาร์ และงบอีก 32 ล้านดอลลาร์ เป็นการลงทุนธุรกิจถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ

ส่วนแผนการลงทุน 3 - 5 ปีข้างหน้า จะเน้นธุรกิจไฟฟ้าเพื่อสร้างความเติบโตตามเป้าหมาย 4,300 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568 และมองโอกาสการลงทุนธุรกิจถ่านหิน โดยเน้นเหมืองที่อยู่ใกล้เหมืองที่ลงทุนปัจจุบัน เพื่อใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน ส่วนธุรกิจก๊าซธรรมชาติได้ลงทุนครบตามเป้าหมาย 500 ล้านดอลลาร์แล้ว โดยการลงทุนเพิ่มเติมจะเน้นแหล่งก๊าซที่อยู่ใกล้แหล่งเดิมเช่นกัน

ที่มา  กรุงเทพธุรกิจ

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ