ข่าว

เปิดทีโออาร์วันนี้ ต่างชาติถือเกิน50% ไฮสปีด3สนามบิน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เปิดทีโออาร์วันนี้ ต่างชาติถือเกิน50% ไฮสปีด3สนามบิน

 

กระทรวงอุตสาหกรรมแถลงเปิดตัวรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน วันนี้ เริ่มขั้นตอนเปิดประมูลสัปดาห์หน้า เม็ดเงิน 2.2 แสนล้านบาท “คมนาคม” เผยสัดส่วนต่างชาติร่วมทุนเคาะไม่ต่ำกว่า 50% แต่ต้องมีคนไทยร่วมถือหุ้นในบริษัทไม่น้อยกว่า 25% หวังเปิดกว้างการลงทุนคึกคัก คาดไม่เกิน ต.ค.นี้ เปิดยื่นซอง ขณะ “บีทีเอส” นำกลุ่ม “บีเอสอาร์” ลุยประมูลทุกโครงการ 

 

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง - สุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กิโลเมตร (กม.) วงเงินลงทุน 2.2 แสนล้านบาท โดยระบุว่า ขณะนี้เอกสารเงื่อนไขประกวดราคา (ทีโออาร์) ดำเนินการแล้วเสร็จสมบูรณ์ โดยทางกระทรวงคมนาคม และกระทรวงอุตสาหกรรมจะมีการจัดแถลงรายละเอียดโครงการร่วมกันวันนี้ (24 พ.ค.2561) หลังจากนั้นจะประกาศเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมลงทุนโครงการในวันที่ 28 พ.ค.2561 หรืออย่างช้าไม่เกินวันที่ 30 พ.ค.นี้

ขีดเงื่อนไขคนไทยถือหุ้น25%

“ตอนนี้รูปแบบการร่วมทุนเคาะแล้วว่าจะเปิดกว้างให้ต่างชาติเข้ามาร่วมทุนได้มากกว่า 50% แต่มีเงื่อนไขว่าภายในบริษัทต่างชาตินั้นจะต้องมีคนไทยถือหุ้นร่วมอยู่ด้วยไม่ต่ำกว่า 25% ซึ่งรูปแบบการร่วมทุนนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการเปิดกว้างให้เอกชนเข้ามาลงทุนในไทย แต่อย่างไรก็ดี ต้องยอมรับว่าบริษัทต่างชาติ 100% ที่จะสนใจเข้ามาลงทุนในไทยยังมีน้อย ดังนั้นจึงเปิดกว้างให้บริษัทร่วมทุนไทยและต่างชาติเข้ามาถือหุ้นในสัดส่วนนี้ได้”

แหล่งข่าวยังกล่าวอีกว่า สำหรับกรอบระยะเวลาการเปิดประมูลโครงการดังกล่าว ภายหลังเริ่มต้นขั้นตอนด้วยการเปิดเชิญชวนแล้ว จะเปิดให้เอกชนศึกษาทีโออาร์อีกราว 3 สัปดาห์ และดำเนินการเปิดขายเอกสารอีก 3 สัปดาห์ หลังจากนั้นจะให้เวลาเอกชนจัดเตรียมเอกสารทางการเงิน และคุณสมบัติอื่นๆ อีก 4 เดือน จึงคาดว่าโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน จะสามารถเปิดยื่นซองประมูลได้ภายในเดือน ต.ค.นี้

เคาะคุณสมบัติผู้ร่วมประมูล

ในส่วนของคุณสมบัติผู้ยื่นซองประมูล นอกจากบริษัทต่างชาติที่จะต้องมีสัดส่วนคนไทยร่วมถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 25% แล้ว คุณสมบัติทางการเงินจะต้องมีสินทรัพย์สุทธิไม่น้อยกว่า 2.5 – 3 หมื่นล้านบาท รวมทั้งจะต้องมีหนังสือแสดงเจตจำนงปล่อยกู้จากสถาบันทางการเงินในวงเงินไม่น้อยกว่า 1.2 แสนล้านบาท ขณะที่คุณสมบัติอื่นๆ จะมีอาทิ ผู้ประมูลจะต้องมีบุคลากรที่สามารถออกแบบ ก่อสร้าง และเดินรถในโครงการดังกล่าวได้

ทั้งนี้ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มีระยะทาง 220 กิโลเมตร รวม 5 สถานี ประกอบด้วย ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ศรีราชา พัทยาและอู่ตะเภา อัตราความเร็ว 250 ก.ม./ชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินอู่ตะเภาเข้ากรุงเทพฯ ภายในเวลา 45 นาที ขณะที่อัตราค่าโดยสาร จากมักกะสัน-พัทยา 270 บาท และจากมักกะสัน-อู่ตะเภา 330 บาท เปิดพื้นที่การพัฒนา 3 จังหวัด ในพื้นที่อีอีซี ได้แก่ จ.ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และระยอง

เตรียมเปิดผู้สนใจยื่นประกวดราคา

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการที่จะมีการเปิดรายละเอียดของสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง (ทีโออาร์) โครงการรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน สุวรรณภูมิ ดอนเมือง อู่ตะเภา วงเงินลงทุน 2.24 แสนล้านบาทว่าหลังจากมีการประกาศทีโออาร์แล้วในสัปดาห์หน้าก็จะเริ่มให้เอกชนที่สนใจเข้ามาสู่ขั้นตอนของการยื่นประกวดราคาได้ทันที ซึ่งคิดว่าเอกชนมีความสนใจที่จะเข้ามาร่วมประมูลในโครงการนี้พอสมควร

“คิดว่าจะมีเอกชนสนใจพอสมควร และได้มีการศึกษาโครงการมาแล้ว ตอนนี้อยู่ที่ว่าใครจะอยู่กับใครใครจะจับมือกับใครจะแข่งกับใคร ผมว่าตอนนี้ทุกอย่าง Sofar so good นะ” นายสมคิดกล่าว

ก่อนหน้านี้มีผู้แสดงความสนใจเข้าร่วมประมูลในโครงการดังกล่าวจำนวนมาก ทั้งกลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซี.พี.) กลุ่มบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กลุ่ม บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส กลุ่ม บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) รวมทั้งกลุ่มทุนจากต่างประเทศอีกจำนวนมาก จึงเชื่อว่าการประมูลในครั้งนี้จะมีความคึกคักอย่างมาก

‘บีทีเอส’ลุยประมูลทุกโครงการ

นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ BTS กล่าวว่า โครงสร้างพื้นฐานทุกโครงการที่ภาครัฐจะออกมาให้เอกชนลงทุนทางบริษัทจะเข้าร่วมด้วยทุกโครงการ โดยมีกลุ่มร่วมลงทุน คือ BSR จับมือเข้าประมูลด้วยกัน ซึ่งโครงการที่ประเมินจะมีรถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าสายสีส้ม และสายสีม่วง

กลุ่มร่วมลงทุนBSRประกอบไปด้วยบริษัทในฐานผู้ถือหุ้นใหญ่มากกว่า 50 % มีบริษัทซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอลด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC และ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH ในกลุ่มนี้มีความพร้อมแหล่งเงินทุน เทคโนโลยี ประสบการณ์การทำธุรกิจจึงมั่นใจว่าสู้กับคู่แข่งในไทยและต่างชาติได้

ลุ้นสรุปทีโออาร์จับมือ ปตท.

ส่วนบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ที่ชักชวนให้ร่วมลงทุนในโครงการรถความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ยังไม่ได้ตอบตกลงแต่ได้มีการพูดคุยกันเบื้องต้นไปแล้ว ว่าอยากรอดูหลักเกณฑ์การประมูล (TOR) มีความเสี่ยงอะไรบ้าง ถึงจะมาพูดคุยกันอีกที ซึ่งคาดว่า TOR น่าจะออกมาช่วงปลายเดือน พ.ค. นี้

โดยยอมรับว่าในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาได้ศึกษาระบบมาแล้ว ดังนั้นเมื่อเห็นTOR ได้เห็นเป็นอย่างไร ซึ่งแหล่งเงินทุนถึง 2 แสนล้านบาทพูดคุยเพื่อให้ข้อเสนอแล้ว เทคโนโลยีมีพร้อม และสามารถจัดซื้ออุปกรณ์ต่างๆจากซัพพรายในราคาที่ต่อรองได้ จึงเชื่อว่าถ้าต่างชาติจะเข้าแข่งขันด้วยการลงทุนระดับ 2 แสนล้านบาทจะคุ้มค่าหรือไม่

‘หลังชนะรถไฟสายสีชมพู กลุ่ม BSR คุยกันตกลงว่าให้เราไปด้วยกันทุกโครงการ ซึ่งรวมกัน 3 บริษัทสบายมาก ยิ่งมีปตท.เข้ามาด้วยดีเข้าไปอีก ส่วนต่างประเทศถ้าจะร่วมลงต้องมีข้อเสนอเช่น ขายระบบถูก 50 % อาจจะพิจารณา’

เตรียมแผนพัฒนามักกะสัน-บางซื่อ

พื้นที่สถานีมักกะสันถือว่าเป็นพื้นที่ที่เชื่อม 3 สนามบิน ดังนั้นทางบีทีเอสจึงมีการทำแผนศึกษาแล้วว่าสามารถจะนำมาพัฒนาอะไรได้บ้าง เพราะที่ผ่านมาพื้นที่ดังกล่าวไม่สามารถสร้างประโยชน์เชิงพาณิชย์ได้ ดังนั้นจึงต้องดูให้ดีว่าจะสามารถพัฒนาเป็นอะไร ซึ่งบริษัทมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ U เป็นผู้ดำเนินการได้

นอกจากนี้พื้นที่สถานีกลางบางซื่อก็น่าสนใจเพราะเป็นเส้นทางเชื่อมกับรถไฟฟ้าอีกหลายสาย ดังนั้นหากมีการเปิดให้ประมูลก็พร้อม แต่ปัจจุบันยังเป็นหลักการ มูลค่าลงทุนก็ยังไม่มีออกมาต้องรอความชัดเจนอีกที

‘คีรี’ย้ำปี61กลุ่มบีทีเอสเติบโตดี

สำหรับกลุ่มบีทีเอสในปีนี้จะมีความมั่นคงสร้างการเติบโตช่วง 5 ปี อย่างน้อยเฉลี่ย 25 % ต่อปี จากธุรกิจขนส่ง ซึ่งโครงสร้างพื้นที่ดำเนินสามารถสร้างการเติบโตทั้ง สายสีเขียวใต้ เริ่มเดินรถเดือนธ.ค. ทำให้ช่วยให้สายหลักของบีทีเอสสามารถขนส่งผู้โดยสารเพิ่ม ยิ่งสายสีแดงสามารถเดินรถได้จะเป็นยุทธศาสตร์เพิ่มจำนวนผู้โดยเติบโตในอัตราที่สูง

ธุรกิจสื่อ ด้าน บริษัท วีจีไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI เปลี่ยนไป ไม่ใช่บริษัทตัวแทนโฆษณาแต่บริการกับลูกค้าแบบครบวงจร และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ได้แจ้งผู้ถือหุ้นไปแล้วว่าปีนี้ ยู ซิตี้จะพลิกกลับมามีกำไร สามารถจ่ายปันผลได้

จากโครงการร่วมกับทาง บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ทั้งหมด จาก 25 โครงการเป็น 28 โครงการ ได้เปิดไปแล้ว 11 โครงการ และกำลังเปิดอีก 3 โครงการ ที่หมอชิต สุขุมวิท 71 และสวนจตุจักร ส่วนยูซิตี้ลงทุนเน้น 60-70 % ไปลงทุนในอสังหา ฯ ต่างประเทศ ทั้งโรงแรมยุโรป ส่วนไทยมีโครงการมิกซ์ยูส ติดกับสถานีพญาไท มีออฟฟิศ โรงแรมอีสติน และที่พัก 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ