ข่าว

ภาคธุรกิจหวังคสช. แก้เศรษฐกิจฐานราก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ภาคธุรกิจหวังคสช. แก้เศรษฐกิจฐานราก

 

ในวาระครบ 4 ปีการทำงานของรัฐบาล คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) “กรุงเทพธุรกิจ” สำรวจความคิดเห็นการทำงานของรัฐบาลในช่วงเวลาดังกล่าว และให้นักธุรกิจเสนอแนะการทำงานจากนี้ก่อนจะเดินสู่การเลือกตั้งในปีหน้า โดยนักธุรกิจที่สอบถาม ประเมินตรงกันว่า พอใจการทำงานของรัฐบาลคสช.ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะการช่วยทำให้บ้านเมืองสงบ ยุติความขัดแย้งจากหลายขั้วความคิด  

 

นายสมศักดิ์ อมรรัตนชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ห้องเย็นเอเชี่ยน ซีฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN ผู้ส่งออกอาหารแช่แข็ง อาหารสัตว์ กล่าวว่า 4 ปีที่รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศถือเป็นเรื่องดี เพราะช่วยยุติความขัดแย้งภายในประเทศที่เกิดขึ้นยาวนาน 10 ปี สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ ระบบเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ รัฐบาลยังสามารถช่วยขจัดปัญหาคอรัปชันได้ในระดับหนึ่ง อาทิ การยกเลิกโครงการรับจำนำข้าว และปราบปรามยาเสพติด บ่อนพนันต่างๆให้ลดลง

“วันนี้ถ้ารัฐบาลไม่เข้ามา ประเทศอาจเสียหายมากกว่านี้ เพราะตอนนั้นคนไทยทะเลาะกันรุนแรงมาก ส่วนผลงานด้านเศรษฐกิจใน 4 ปี มองว่าเป็นโอกาสดีที่รัฐบาลเข้ามาแก้ปัญหาคอรัปชัน”

จี้ดูแลศก.ฐานราก-บาทแข็ง

อย่างไรก็ตาม ในฐานะภาคธุรกิจต้องการให้รัฐดำเนินนโยบายต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนประเทศ และกระตุ้นเศรษฐกิจ ควรดูแลค่าเงินบาทให้อยู่ระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์ เพราะขณะนี้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นค่อนข้างมาก ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการธุรกิจส่งออก ให้ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ที่ผ่านมาติดลบกันจำนวนมาก ส่วนผู้ที่ยังอยู่ได้และทำกำไร แต่ก็เป็นตัวเลขที่ลดลงอย่างมาก  

นอกจากนี้ รัฐบาลจะต้องดูแลเศรษฐกิจฐานราก เพราะถือเป็นกำลังซื้อสำคัญภายในประเทศ รวมถึงปราบปรามการคอรัปชั่นให้มากขึ้นอีก

“ต้องให้เวลารัฐบาลในการบริหารประเทศ รวมถึงแก้ปัญหาการคอรัปชัน และทุกภาคส่วนต้องช่วยกันในเรื่องนี้ด้วย”

รับธุรกิจขนาดกลางเริ่มฟื้น 

นายวัลลภ มานะธัญญา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บางซื่อโรงสีไฟเจียเม้ง จำกัด(BSCM) กล่าวว่า การบริหารประเทศตลอด 4 ปีของรัฐบาลค่อนข้างพอใจ เพราะเห็นความพยายามในการดำเนินนโยบายต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาประเทศ แต่ยอมรับว่าในด้านเศรษฐกิจโดยรวม ยังไม่เห็นผลบวกมากนัก เพราะเศรษฐกิจฐานรากยังไม่ดี ขณะที่บริษัทขนาดใหญ่ยอมรับว่ามีการเจริญเติบโต ขณะที่ธุรกิจขนาดกลางพอขยายตัวได้ในระดับทรงๆ

ให้ความรู้มากกว่า“หว่านเงิน”

“รัฐบาลพยายามทำหลายอย่างมาก แต่บางอย่างก็ไม่ค่อยเดินหน้า อย่างผู้ประกอบการคาดหวังมากในการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี เพราะจะส่งผลให้ธุรกิจไทยขยายตัวไปได้ดีขึ้น และต้องการให้ช่วยเหลือเกษตรกรฐานรากมากขึ้น โดยเฉพาะการให้ความรู้มากกว่าการให้เงิน หรือนโยบายประชานิยม เพราะจะทำให้ฐานรากอ่อนแอ”

นอกจากนี้ ในฐานะผู้ส่งออกข้าว ยังต้องการให้รัฐบาลดูแลค่าเงินให้มีเสถียรภาพมากขึ้น เพราะต้องยอมรับว่าค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาก จากปีก่อนอยู่ที่ระดับ 34-35 บาทต่อดอลลาร์ ตอนนี้อยู่ราว 32 บาทต่อดอลลาร์ รวมถึงการดำเนินนโยบายที่เอื้อต่อการขยายตัวทางธุรกิจ เช่น การขออนุญาติตั้งโรงงาน ซึ่งปัจจุบันแม้ว่าจะไม่ยากเท่ากับอดีต แต่รัฐสามารถทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นกว่าเดิมได้อีก 

ขอรัฐบาลใหม่ไม่ปลุก“ขัดแย้ง” 

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด กล่าวว่า การพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ผ่านมา มีประเด็นที่น่าสนใจคือการส่งเสริมดิจิทัลอีโคโนมี ซึ่งสอดคล้องกับการพัฒนาการทำการตลาดออนไลน์ การพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ของภาคธุรกิจที่มีอยู่แล้ว รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนมาเพิ่งพาช่องทางออนไลน์ในการเข้าถึงสินค้าและบริการมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากมีการเลือกตั้งและได้รัฐบาลชุดใหม่ ก็อยากให้เป็นรัฐบาลที่ได้รับการยอมรับจากทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นสังคมเมืองหรือต่างจังหวัด ไม่ปลุกกระแสให้เกิดความขัดแย้งภายหลัง โดยยอมรับว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ก็เริ่มมีความตื่นเต้นเมื่อเห็นกลุ่มคนหน้าใหม่ที่อาสาเข้ามาทำงานการเมือง ทำให้การเมืองเปลี่ยนโฉม รวมถึงการเลือกตั้งในรอบหลายปีนี้ จะเป็นครั้งแรกที่เยาวชนหลายคนจะได้ใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเป็นครั้งแรก จึงน่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดี

ผลงานเด่นดันลงทุนเมกะโปรเจค

ด้านนายณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการพัฒนาธุรกิจพักอาศัยบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลงานที่ชัดเจนของรัฐบาลคสช.คือ การลงทุนภาครัฐในหลายโครงการสำคัญ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าในเมืองและเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดที่เริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่างหลายสาย แต่สำหรับด้านการส่งออกอาจจะไม่โดดเด่นเท่า ขณะที่เศรษฐกิจภาพรวมที่ผ่านมาก็ยังอยู่ในแนวโน้มที่ไม่ย่ำแย่ แม้ว่าจะไม่ถึงกับโดดเด่น ก็ตาม

เอกชนรอลุ้นหลังเลือกตั้ง

นายศิวัจน์ โรจนเต็มศักดิ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ซีบรา เทคโนโลยีส์ ผู้ให้บริการระบบอ่านบาร์โค้ดชั้นนำ กล่าวว่า มุมมองของภาคเอกชนคาดหวังว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลง มีการขับเคลื่อนนโยบายที่จะส่งผลต่อการพัฒนาประเทศในระยะยาว

แต่ทั้งนี้ ประเมินขณะนี้ได้เห็นว่า มีการผลักดันนโยบายต่างๆ ออกมาโดยเฉพาะการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทว่าในทางปฏิบัติยังไม่ค่อยชัดเจนมากนัก ขณะเดียวกันยังไม่ได้เห็นการลงทุนใหม่ๆ เข้ามาในประเทศ

“ส่วนตัวผมมองว่ายังไม่ได้เห็นการทำงานที่ต่อเนื่อง หรือการปฏิรูปที่ชัดเจน ทำให้รู้สึกเสียดายภาวะการเมืองที่มีเสถียรภาพซึ่งน่าจะช่วยส่งเสริมการลงทุน ได้เห็นอะไรที่มากกว่านี้ จากนี้ก็คงต้องรอดูว่าหลังการจัดการเลือกตั้งผลจะออกมารูปแบบใด”

พร้อมระบุว่า ปัจจุบันประเทศอื่นๆ สามารถเดินไปข้างหน้าได้ค่อนข้างเร็ว เช่น เวียดนามที่สามารถดึงเม็ดเงินลงทุนเข้าประเทศ สามารถขยายฐานการผลิตต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วไปทุกภูมิภาคของประเทศ ดังนั้นประเทศไทยซึ่งนับว่ามีศักยภาพน่าจะทำได้ดีกว่านี้มิเช่นนั้นมีโอกาสตามหลังประเทศอื่นๆ

งานราชการคล่องตัว-ต่างชาติรอเลือกตั้ง

นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ซูซูกิ กล่าวว่า การบริหารงานของรัฐบาลชุุดปัจจุบันในช่วงเวลา 4 ปีที่ผ่านมานั้น เห็นว่าจุดแข็งที่สำคัญของรัฐบาลชุดนี้ก็คือ ขั้นตอนงานราชการต่างๆ นั้นพบว่ามีความคล่องตัวมากขึ้น ซึ่งมีผลช่วยให้การดำเนินงานของภาคเอกชน และโครงการต่างๆ ที่ภาครัฐมีนโยบายออกมา มีความคืบหน้าอย่างชัดเจน ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนประเทศ และภาวะเศรษฐกิจโดยรวมให้ดีขึ้น

นอกจากนี้สิ่งที่เป็นจุดแข็งอีกสิ่งหนึ่งของรัฐบาลชุดปัจจุบันก็คือ สถานการณ์บ้านเมืองที่มีสงบเรียบร้อย ซึ่งเป็นผลดีต่อบรรยากาศภายในประเทศในด้านต่างๆ ไม่เกิดปัญหาความรุนแรง

ส่วนสิ่งที่อาจจะเป็นจุดอ่อน เป็นเรื่องมุมมองของต่างชาติที่มองเข้ามาภายในประเทศก็คือ เรื่องของการเลือกตั้งทั่วไป ที่นักลงทุนต่างชาติรอดูความแน่ชัดของการจัดการเลือกตั้งในประเทศ เพราะมีผลต่อการประเมินทิศทางการดำเนินธุรกิจเพราะต่างชาติต้องการเห็นภาพการจัดการเลือกตั้งที่ชัดเจน และเห็นทิศทางการบริหารงานในระยะสั้น 4 ปีของรัฐบาลใหม่ที่จะจัดตั้งขึ้นได้ชัดเจน ซึ่งมีผลทำให้กล้าตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจหรือการลงทุนต่างๆ มากขึ้น

ส่วนอุปสรรคต่อการดำเนินงานของภาคธุรกิจในปัจจุบัน โดยส่วนตัวเห็นว่าไม่มีอุปสรรคใดๆ

ที่มา  กรุงเทพธุรกิจ

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ