สมคิดสั่งอุตฯหนุนชุมชน ปั้นสินค้าจังหวัด

 

 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยระหว่างการประชุมติดตามภารกิจของกระทรวงอุตสาหกรรมและมอบหมายนโยบายว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับนโยบายพัฒนาเอสเอ็มอี ให้ก้าวไปสู่ยุค 4.0 โดยเฉพาะในการจัดตั้งศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม (ไอทีซี) 11 แห่งทั่วประเทศ และการตั้งศูนย์ไอทีซีขนาดเล็กในพื้นที่อุตสาหกรรมจังหวัด 76 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะต้องร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) หอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ และสถาบันการศึกษาในพื้นที่ ให้เข้ามามีส่วนร่วม ทั้งด้านการสนับสนุนเครื่องจักรกล และผู้เชี่ยวชาญที่จะเข้ามาให้ความรู้กับเอสเอ็มอี รวมทั้งเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้รับรู้และเข้ามาใช้บริการของศูนย์ไอทีซีให้มากที่สุด ซึ่งจะช่วยยกระดับการผลิตและการบริหารจัดการอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ ในวันที่ 11 พ.ค.นี้ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรม (เมติ) ของญี่ปุ่น จะเดินทางมาไทย เพื่อติดตามความร่วมมือในการพัฒนาเอสเอ็มอีไทย จากที่ได้มีการลงนามเอ็มโอยูความร่วมมือกันไว้ก่อนหน้านี้ ก็ขอให้พาทางญี่ปุ่นไปดูและร่วมมือในการพัฒนาศูนย์ไอทีซี

นอกจากนี้โครงการพัฒนาหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (ซีไอวี) ที่มีเป้าหมายส่งเสริมให้การท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับวิสาหกิจชุมชน ต้องการให้ต่อยอดในการนำสินค้าชุมชนของแต่ละจังหวัดที่โดดเด่นแล้ว นำมาพัฒนาคุณภาพและบรรจุภัณฑ์ให้สวยงาม และเก็บรักษาคุณภาพของสินค้าได้นานขึ้น

 

 

 

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ประมาณต้นเดือน พ.ค.นี้ จะประชุมอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อหารือตามที่รองนายกรัฐมนตรีมอบหมายที่จะหาจุดเด่นของสินค้าชุมชนในแต่ละจังหวัด และวางแผนพัฒนาต่อยอดให้เป็นสินค้าเด่นของแต่ละจังหวัดอย่างไร โดยจะต่อยอดจากโครงการซีไอวี ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมจะต้องเข้าไปดูในเรื่องของบรรจุภัณฑ์ ดีไซน์ สินค้าชุมชน ให้ตรงกับความต้องการของนักท่องเที่ยว โดยจะมุ่งเน้นเมืองรองเป็นสำคัญ เช่น ภาคเหนือ ขณะนี้ได้นำร่องแล้วที่ จ.เชียงราย ในการพัฒนาสินค้าใบชาให้มีคุณภาพ แพคเกจจิ้งที่ดีขึ้น

“ในขณะนี้โครงการซีไอวี ได้พัฒนาวิสาหกิจชุมชนไปแล้วกว่า 100 ชุมชน โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) จะเป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาคลัสเตอร์การท่องเที่ยวนี้ รวมทั้งจะเชิญสภาอุตสาหกรรมจังหวัด และหอการค้าจังหวัดเข้ามาร่วมโครงการนี้ด้วย โดยได้ตั้งเป้าหมายพัฒนาหมู่บ้านซีไอวี ให้ครบทุกจังหวัดในปี 2562 และสร้างรายได้เพิ่มให้แก่ชุมชนมูลค่ารวม 2,892 ล้านบาท”

นอกจากนี้ จะเร่งรัดโครงการบิ๊กบราเธอร์ หรือโครงการพี่ช่วยน้อง โดยล่าสุดได้มีผู้ประกอบการรายใหญ่เข้ามาร่วมแล้วกว่า 80 ราย และตั้งเป้าสิ้นปีนี้จะมีผู้ประกอบการรายใหญ่เข้ามาร่วมไม่ต่ำกว่า 100 ราย ซึ่งผู้ประกอบการเหล่านี้จะลงไปช่วยเหลือฝึกอบรมเอสเอ็มอีในทุกๆ ด้าน รวมทั้งจะปั้นนักธุรกิจเกษตรแปรรูป โดยการบ่มเพาะให้เกษตรกร พัฒนาผลิตภัณฑ์เกษตร ให้เกิดมูลค่าเพิ่ม จนกลายมาเป็นผู้ประกอบการ มีเป้าหมายในการปั้นนักธุรกิจเกษตรแปรรูปจำนวน 2,500 กลุ่ม อบรมบ่มเพาะเป็นผู้ประกอบการ 55,000 คน แปรรูปและพัฒนาผลิตภัณฑ์เกษตรสร้างมูลค่าเพิ่ม 300 กลุ่ม และเกิดหน่วยผลิตแปรรูปต้นแบบ 50 กลุ่ม

ที่มา：·กรุงเทพธุรกิจ