ข่าว

APEX เอาจริง!! ทุ่ม 2.3 หมื่นลบ. ลุยโรงแรมกระบี่-ภูเก็ต

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

APEX เอาจริง!! ทุ่ม 2.3 หมื่นลบ. ลุยโรงแรมกระบี่-ภูเก็ต

            บอร์ด บมจ. เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเมนท์ (APEX)  เอาจริง!! เคาะยุทธศาสตร์ 4 ปี (61-64) ตั้งเป้าลงทุน 2.3 หมื่นล้านบาท พัฒนาโครงการโรงแรมและเรสซิเด้นซ์ แหล่งท่องเที่ยวจ.กระบี่ และภูเก็ต จำนวน 231 ไร่  เพื่อเพิ่มมูลค่าขาย รวมไปถึงทำรีสอร์ท
หรูครบวงจร CLUB MED กระบี่ บนที่ดิน 100 ไร่  มูลค่า 3.8 พันล้านบาท คาดเริ่มก่อสร้างกันยายน ปี 2561นี้ พร้อมเล็งซื้อที่ดินเพิ่ม 170 ไร่รองรับการเติบโตก้าวกระโดด แย้มอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อร่วมทุนพันธมิตรฮ่องกงพัฒนาที่ดินหาดไม้ขาวต่อยอดธุรกิจ

              นายประกาย ชลหาญ  กรรมการบริหาร  บริษัท เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ APEX เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเห็นชอบแผนพัฒนาธุรกิจตั้งแต่ปี 2561-2564 เพื่อพัฒนาโครงการเป็นโรงแรมและเรสซิเด้นซ์  คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 2.3 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย การพัฒนาที่ดินหาดยาว จ.กระบี่ จำนวน 231 ไร่ แบ่งเป็นพัฒนาโครงการ CLUB MED DRABI RESORT AND RESIDENCES พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกตามรูปแบบ CLUB MED บนที่ดินประมาณ 100 ไร่  มูลค่าโครงการ 3.8 พันล้านบาท คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในเดือนกันยายน ปี 2561นี้ และมีกำหนดแล้วเสร็จประมาณต้นปี 2564 ซึ่ง“Club Med กระบี่”  ประกอบไปด้วย Club Med Premium Resort ในรูปแบบต่างๆจำนวน 300 ห้องพัก และPool Villa Residences จำนวน 50  วิลล่า    โดยมีจุดเด่น คือ ตั้งอยู่ติดชายทะเลยาว 300 เมตร บนพื้นที่ดินของโครงการกว่า100 ไร่  

              พร้อมซื้อที่ดินเพิ่มอีกประมาณ 170 ไร่ เพื่อการพัฒนาโครงการโรงแรมและเรสซิเด้นซ์  ภายใต้การบริหารของเชนโรงแรมชั้นนำอีกประมาณ 3 โครงการในบริเวณหาดยาว  เพื่อให้เกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของกระบี่  และสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องให้กับบริษัท    อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีแผนพัฒนาที่ดินหาดไม้ขาว จ.ภูเก็ต เนื้อที่ 14 ไร่  ซึ่งปัจจุบันได้ผู้ร่วมทุนจากฮ่องกง สนใจร่วมพัฒนาโครงการเป็นโรงแรมและเรสซิเด้นซ์ และอยู่ระหว่างตกลงกันในรายละเอียดเพื่อทำสัญญาร่วมทุน  รวมถึงมีแผนพัฒนาที่ดินบริเวณหาดในยาง จ.ภูเก็ตเพื่อพัฒนาโครงการโรงแรมและเรสซิเด้นซ์  ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดิน

             “จากแผนพัฒนาเพิ่มโครงการและรายได้ของบริษัทในปี 2561-2564 ดังกล่าว จะทำให้บริษัทมีประมาณการมูลค่าขายของโครงการในระหว่างปี 2561-2564 อยู่ประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้ภาพรวมของธุรกิจบริษัทมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น”นายประกายกล่าว 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ