ข่าว

สมอ.เล็งออกมาตรฐานบังคับอีก 7 รายการปีหน้า 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

  สมอ.ออกมาตรฐานมอก.เอส ยกระดับมาตรฐานเอสเอ็มอี 20 รายการ เน้นอุตฯท่องเที่ยวและสปา เตรียมออกมาตรฐานบังคับอีก 7 รายการ

 

นายณัฐพล รังสิตพล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.)เปิดเผยถึงการดำเนินงานของ สมอ. ว่า ในขณะนี้ สมอ. อยู่ระหว่างการเร่งตั้งมาตรฐาน มอก.เอส เพื่อยกระดับการผลิตและบริการของเอสเอ็มอี โดยในปี 2561 จะออกมาตรฐาน มอก.เอส 20 รายการ 

ส่วนใหญ่จะอยู่ในธุรกิจท่องเที่ยวและสปา เช่น แชมพู สบู่ก้อน สบู่เหลว ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว แป้วฝุ่น แป้งน้ำ สบู่ซักผ้า เสื่อผ้าสำเร็จรูป ผ้านวม ผ้าปูที่นอนปลอกหมอน ผลิตภัณฑ์เครื่องเงิน และดอกไม้ประดิษฐ์ เป็นต้น ซึ่งเมื่อมีมาตรฐานแล้ว ก็จะผลักดันให้เอสเอ็มอีพัฒนาไปถึงมาตรฐานที่กำหนด

“การที่ สมอ. เลือกที่จะตั้งมาตรฐานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และสปา เป็นอันดับแรก ก็เพื่อที่จะยกระดับมาตรฐานเอสเอ็มอีในกลุ่มท่องเที่ยว เพราะมีเอสเอ็มอีในกลุ่มนี้เป็นจำนวนมาก และสอดรับกับนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวของรัฐบาล โดยตั้งมาตรฐานเพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศมีความไว้วางใจ ทั้งมาตรฐานทั้งผลิตภัณฑ์ และบริการ โดยจะอิงกับมาตรฐานของฝ่ายจัดซื้อของโรงแรมชั้นนำ”

ทั้งนี้ มอก.เอส จะเป็นมาตรฐานเฉพาะ และเป็นมาตรฐานใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งแม้ว่าบางสินค้ามีมาตรฐาน มอก. เดืมอยู่แล้ว เช่น แชมพู สบู่ แต่ มอก.เอส จะเป็นมาตรฐานสินค้าสำหรับสปาโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีความเหมาะสมกับธุรกิจนี้มากที่สุด ซึ่งจะต้องผ่านการตรวจสอบ และมีหลักเกณฑ์การควบคุมมาตรฐานที่เข้มงวด โดยในอนาคตจะมี มอก.เอส ออกมามากขึ้นเรื่อยๆ ตามความต้องการของผู้ประกอบการ

ส่วนมาตรฐานบังคับนั้น ในปี 2561 มีแผนที่จะออกมาตรฐานบังคับอีก 7 รายการ ได้แก่ มาตรฐานยางล้อรถยนต์และส่วนพ่วง มาตรฐานยางล้อรถยนต์เชิงพาณิชย์ และส่วนพ่วง มาตรฐานยางล้อสำหรับรถจักรยานยนต์ มาตรฐานเสียงจากยางล้อที่สัมผัสผิวถนน การยึดเกาะถนนเปียก และความต้านทานการหมุน มาตรฐานเต้าเสียบ เต้ารับในที่อยู่อาศัยและงานทั่วไปที่มีจุดประสงค์คล้ายกับชุดสายพ่วง 

มาตรฐานหลอดฟลูออเรสเซนซ์ขั้วเดี่ยว และมาตรฐานหลอดบัลลาสต์ในตัวสำหรับการให้แสงสว่างทั่วไป ซึ่งการออกมาตรฐานบังคับเหล่านี้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานให้กับประชาชน และป้องกันสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานเข้ามาในประเทศไทย

นายณัฐพลกล่าวว่า นอกจากนี้ สมอ. ยังได้เร่งออกมาตรฐาน เพื่อรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาล โดยในปี 2561 จะออกมาตรฐานในกลุ่มนี้อีก 157 มาตรฐาน โดยแบ่งเป็นมาตรฐานตามกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.)แล้ว 40 มาตรฐาน อยู่ในกลุ่มการแพทย์ครบวงจร 11 มาตรฐาน เช่น อุปกรณ์ยึดตรึงกระดูกภายนอกบริเวณข้อศอก อุปกรณ์ยึดตรึงกระดูกสันหลัง หมุดเกลียวโลหะยึดกระดูก วัสดุทดแทนหมอนรองกระดูกสันหลัง เป็นต้น 

กลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ 10 มาตรฐาน เช่น วิศวกรรมซอฟแวร์และระบบ การใช้สิ่งเคลือบหรือสิ่งหล่อสำหรับป้องกันมลพิษ กลุ่มอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร 7 มาตรฐาน เช่น เคมีวิเคราะห์วัตถุเจือปนอาหาร แป้งสาลีชนิดทำเค้ก แป้งสาลีชนิดทำขนมปัง 

กลุ่มอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ 5 มาตรฐาน เช่น บริภัณฑ์ไฟฟ้าสำหรับรถราง กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ 5 มาตรฐาน เช่น ระบบประจุไฟฟ้าของยานยนต์ไฟฟ้า และกลุ่มอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ 2 มาตรฐาน เช่น พลาสติกชีวภาพ

นอกจากนี้ ยังมีมาตรฐานอุตสาหกรรมเป้าหมายที่อยู่ระหว่างการดำเนินการอีก 117 มาตรฐาน แบ่งเป็น หุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม 31 มาตรฐาน อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร 29 มาตรฐาน อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร 28 มาตรฐาน อุตสาหกรรมรถยนต์สมัยใหม่ 18 มาตรฐาน และอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ 11 มาตรฐาน ซึ่งจะเร่งดำเนินงานและมีผลบังคับใช้ในปี 2561

ในส่วนของการตรวจจับ ยึดอายัดสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน มอก. ตัวเลขล่าสุดของการตรวจจับในเดือนต.ค. 2560 มีตัวเลขการยึด อายัด มูลค่า 478 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์เหล็ก 466.9 ล้านบาท กลุ่มผลิตภัณฑ์ไฟฟ้า 9 ล้านบาท และกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร 2.5 ล้านบาท ซึ่ง สมอ. จะเข้มงวดการตรวจจับ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชนมากขึ้น

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ