ข่าว

‘คิวทีซี’ซื้อโรงไฟฟ้าใน-นอก ตั้งเป้า5ปีรายได้แตะ‘3พันล้าน’

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

‘คิวทีซี’ซื้อโรงไฟฟ้าใน-นอก ตั้งเป้า5ปีรายได้แตะ‘3พันล้าน’

 นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ QTC เปิดเผยว่า บริษัท ตั้งเป้าหมายแผนการลงทุนใน 5 ปี(2561-2565) จะมีรายได้แตะ 2,000-3,000 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัตติการณ์ โดยมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจไฟฟ้าจะเพิ่มเป็น 70% และธุรกิจจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้าเหลือ 30% จากปัจจุบันรายได้หลักยังมาจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้าถึง 70% ซึ่งจะมุ่งเน้นการเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าในประเทศและต่างประเทศเป็นหลัก เพื่อให้รับรู้รายได้โดยเร็วและมีผลตอบแทนการลงทุนที่มั่นคงในระยะยาว

ปัจจุบัน บริษัทได้เข้าลงทุนธุรกิจไฟฟ้าแล้ว 2 โครงการ คือ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ L Solar 1 กำลังผลิตรวม 8 เมกะวัตต์ ซึ่งเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปี2554 โดยได้รับโอนหุ้นได้รับโอนหุ้นจากบริษัทล็อกซเล่ย์ จำกัด(มหาชน) หรือ LOXLEY ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิม ตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 ก.ย.2560 คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 4 ปีนี้ ประมาณ 20-30 ล้านบาท และรับรู้รายได้เต็มที่ 170 ล้านบาทในปี 2561

ส่วนอีกโครงการ คือ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Mimbo ในเมียนมา กำลังรวม 220 เมกะวัตต์ มูลค่าลงทุนประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท บริษัทถือหุ้นประมาณ 15% ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างเฟสแรก กำลังผลิต 50 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะCODได้ในเดือน เม.ย.ปี2561 คาดว่าจะรับรู้รายได้กว่า 50 ล้านบาทต่อปี และเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 3 ปี2561 จากนั้นเฟส2 อีก 50 เมกะวัตต์ จะCODได้ในปี 2562 เฟส 3 อีก 50 เมกะวัตต์ในปี 2563 และเฟสสุดท้าย 40 เมกะวัตต์ในปี 2564 ซึ่งโครงการนี้ถือเป็น 1 ใน 9 โครงการแรกที่ได้รับการอนุมัติให้เริ่มดำเนินการและจำหน่ายไฟฟ้าโดยตรงให้กับรัฐบาลเมียนมา เพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 30 ปี

รวมถึง บริษัทยังร่วมกับ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC ศึกษาความเป็นไปได้โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลในเมียนมา กำลังผลิต 10 เมกะวัตต์ ใช้ไม้เป็นวัตถุดิบ ซึ่งโครงการนี้ยังไม่มีความชัดเจน เพราะยังต้องดูเรื่องผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และนโยบายของรัฐบาลเมียนมา

นอกจากนี้ บริษัท ยังลงนามในบันทึกความเข้าใจกับ บริษัท เจริญ เซกอง กรุ๊ป จำกัด หรือ CSG ซึ่งเป็นบริษัทลาวที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาและเป็นเจ้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำหลายโครงการในลาว ซึ่งตกลงให้สิทธิบริษัทแต่เพียงผู้เดียว(Exclusive Right) ในการศึกษาข้อมูลและตรวจสอบสถานะเพื่อประเมินความเป็นไปได้ในการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในลาว 2 โครงการ คือ โรงไฟฟ้าน้ำเชียม กำลังผลิต 104 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าน้ำคาน 3 กำลังผลิต 60 เมกะวัตต์ ซึ่งทั้ง 2 โครงการ COD ภายในปีนี้

“โครงการนี้ ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ คาดว่าทั้งโครงการ 164 เมกะวัตต์ จะใช้เงินลงทุนประมาณ 2-3 หมื่นล้านบาท หรือ เมกะวัตต์ละประมาณ 150 ล้านบาท ซึ่งบริษัท คาดหวังจะถือหุ้นราว 20% โดยเงินลงทุนอาจใช้รูปแบบเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง(PP) คาดว่าผลการศึกษาจะมีความชัดเจนภายในปลายปี2561 และบริษัทยังศึกษาโอกาสการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในลาวเพิ่มเติมอีก 2-3 โครงการ ซึ่งมีทั้งขนาดเล็กสุด 30 เมกะวัตต์ และขนาดใหญ่ 500 เมกะวัตต์” นายพูลพิพัฒน์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม แผนการลงทุนในปี2561 บริษัทตั้งเป้าหมายจะมีรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2558 ที่เคยทำรายได้สูงสุดอยู่ที่ประมาณ 1,200 ล้านบาท จากการจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้าให้กับโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์(โซลาร์เซลล์)ค้างท่อ คิดเป็นมูลค่าราว 400 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นจากปี2560 ที่คาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 900 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่มีรายได้ประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากยอดขายหม้อแปลงไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยปีนี้ คาด ยอดขายหม้อแปลงไฟฟ้าในต่างประเทศจะอยู่ที่ 250-300 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 20% ของยอดขายรวม

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ