พ่อค้าข้าวกระอัก ประมูลข้าว"คน"สอดไส้ข้าวเน่าสูญหมื่นล้าน

               โละสต๊อกข้าวรัฐโฉ่อีก หลังพ่อค้าข้าวที่ชนะประมูลข้าวรัฐนับล้านตันเจอข้าวสารเน่าสอดไส้ แห่ร้องพาณิชย์-อคส.-อตก.ขอระงับขนข้าวออกจากโกดัง หลังตรวจสอบเป็นคนละเกรดกับที่ประมูลได้ ประเมินความเสียหายเบื้องต้นแค่ 5 รายกว่า 10,000 ล้าน ยังคงฉาวโฉ่ไม่เลิกกับกรณีการปูดกระบวนการระบายสต๊อกข้าวรัฐในโครงการรับจำนำที่มีความไม่โปร่งใส ทั้งการนำเอาข้าวดีที่คนบริโภคไปประมูลเป็นข้าวเน่า การปล่อยให้ตั้งบริษัทนอมินีเข้าร่วมประมูลข้าวในสต๊อกรัฐบาลได้

                 ล่าสุดยังมีกระแสข่าวว่า พ่อค้าข้าวที่ชนะประมูลข้าวเพื่อการบริโภคนั้นเจอข้าวเน่าสวมไส้ จนต้องรวมตัวกันยื่นหนังสือร้องเรียนต่อกระทรวงพาณิชย์และองค์การคลังสินค้า(อคส.) เจ้าของโครงการเพื่อขอระงับการรับมอบข้าวสารในโครงการนับล้านตัน

               แหล่งข่าวในวงการข้าว เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากพ่อค้าข้าวรายใหญ่ ซึ่งได้เข้าร่วมประมูลซื้อข้าวสารในสต๊อกในโครงการระบายข้าวสารเพื่อการบริโภคของกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จำนวนล้านกว่าตัน 190 โกดังทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2560 โดยกลุ่มพ่อค้าข้าวรายใหญ่กว่า 5 บริษัทฯ ที่ชนะประมูลข้าวล็อตดังกล่าวคิดเป็นปริมาณมากกว่า 80% ของข้าวที่นำออกประมูลต้องกระอักกระอ่วนใจอย่างหนัก หลังจากเซ็นสัญญาซื้อข้าวสารในโครงการระบายข้างจากรัฐบาลไปแล้ว เพราะเมื่อถึงกำหนดที่ต้องขนย้ายข้าวออกจากโกดัง เพื่อนำไปปรับปรุงเพื่อการบริโภคตามสัญญา กลับพบว่า ข้าวที่ส่งมอบนั้นไม่เป็นไปตามสัญญา

             โดยพบว่าหลายสิบโกดังดังกล่าว ที่ระบุว่าเป็นข้าวหอมมะลินั้น เมื่อเปิดคลังดูกลับพบว่า นอกจากปริมาณข้าวที่ต้องรับมอบจะไม่เป็นไปตามสัญญา ยังพบว่าข้าวเสื่อมสภาพและถูกสอดไส้ โดยพบว่ามีข้าวเสียมากกว่าครึ่ง ซึ่งควรต้องตีเป็นข้าวเสียที่ต้องประมูลเข้าสู่โรงงานอุตสาหกรรมเพื่อนำไปเป็นอาหารสัตว์แล้วยังพบว่า หลังคลังนั้นมีข้าวเน่าเจือปนอยู่เป็นจำนวนมาก

                ด้วยเหตุนี้ กลุ่มพ่อค้าข้าวรายใหญ่เหล่านี้ จึงรวมตัวกันทำหนังสือร้องเรียนไปยัง รมว.กระทรวงพาณิชย์และองค์การคลังสินค้า(อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อตก.) เพื่อขอให้รัฐได้มีการตรวจสอบข้าวที่จะส่งมอบใหม่ เพราะถือว่าชนิดข้าวดังกล่าวไม่เป็นไปตามสัญญา

              “กลุ่มพ่อค้าข้าวรายใหญ่ที่ร่วมประมูลข้าวไปกว่า 80% ของโครงการต่างร้องจ๊ากไปตามๆกัน เพราะเมื่อเปิดดูข้าวที่ประมูลมาได้ ซึ่งระบุเป็นข้าวหอมมะลิ แต่กลับกลายเป็นข้าวเน่าที่ต้องตีเป็นอาหารสัตว์ แถมไม่ได้ปนมา 10-20 กระสอบ แต่ปริมาณข้าวเสียเหล่านี้มีถึง 20% ของที่ประมูลมาได้ ซึ่งเท่าที่มีการประเมินเบื้องต้น คาดว่า ความเสียหายจากข้าวล็อตที่ประมูลได้นี้จะมีมากกว่า 10,000 ล้านบาทเลยทีเดียว”

                 อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวเผยต่อว่าจนถึงขณะนี้ กระทรวงพาณิชย์และอคส.ยังคงไม่มีคำชี้แจงใดๆ กลับมายังพ่อค้าข้าว มีเพียงการออกมาให้ข่าวว่าก่อนการประมูลนั้นได้มีการเปิดคลังให้ผู้ซื้อได้ดูข้าวสารในสต๊อกที่จะนำมาประมูลแล้ว รวมทั้งก่อนการประมูลก็ได้มีการตรวจสอบ และคัดแยกข้าวที่จะนำออกประมูลอย่างชัดเจนแล้ว และว่าผู้ซื้อต่างก็ยอมรับเงื่อนไขการประมูลตั้งแต่ต้น จึงไม่สามารถปฏิเสธการรับมอบได้ ทำให้พ่อค้าข้าวรายใหญ่เหล่านี้กะอักกระอ่วนใจไปตามๆกันเพราะหากยอมรับมอบข้าวเหล่านี้ไปก็ไม่สามารถจะนำไปขายสู่ตลาดได้ เนื่องจากไม่อยู่ในสภาพที่เหมาะสมกับการบริโภคได้อยู่แล้ว นอกจากจะยอมขาดทุนเอาข้าวไปขายให้โรงงานอาหารสัตว์หรืออุตสาหกรรมอื่นๆ

          "น่าจะมีขบวนการสอดไส้ข้าวเน่าเหล่านี้เอาไว้ต้ังแต่ต้น และน่าจะเป็นการร่วมมือระหว่างเจ้าของคลังสินค้าและเซอเวเยอร์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ และมีการตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ การดูแลรักษาข้าวเหล่านี้เป็นไปอย่างถูกต้อง และสอดคล้องกับงบประมาณที่ได้หรือไม่ เช่น การรมยากันมอดอย่างสม่ำเสมอหรือไม่ หรือรับเงินไปแล้ว แต่ไม่ทำตามที่ระบุ ตลอดจนการนำข้าวตั้งแต่ปี 2552 มาเวียนเทียนขาย โดยมีผู้รับผิดชอบรู้เห็นเป็นใจ และยังมีการทำข้าวคุณภาพดีออกไปจำหน่าย แล้วนำข้าวเสื่อมคุณภาพเข้ามาแทน” แหล่งข่าวคนเดิมกล่าวทิ้งท้าย