นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า การจัดงาน 'Cross-border e-Commerce Solutions & Business Matching' ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยสามารถขยายโอกาสทางการค้าผ่านช่องทางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไปยังตลาดเป้าหมาย (Cross-border e-Commerce) และผลักดันให้สินค้าและบริการไทยไปปรากฏอยู่บน e-Marketplace ชั้นนำระดับโลกอย่าง Amazon.com และGmarketAfrica.com ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ในตลาดสหรัฐอเมริกา ยุโรป และแอฟริกา เพื่อเพิ่มช่องทางการเข้าถึงสินค้าและบริการไทยในเวทีโลก
"นอกจากนี้ ภายในงานผู้นำเข้าจาก Amazon.com และGmarketAfrica.com ได้คัดเลือกสินค้าไทยเพื่อนำไปจำหน่ายบนเว็บไซต์ กลุ่มสินค้าที่เป็นที่สนใจ ได้แก่ สินค้าสปา สินค้าเสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องประดับ สินค้าเพื่อสุขภาพ เครื่องสำอาง และขนมขบเคี้ยว ทั้งนี้ มีผู้ประกอบการไทยตอบรับเข้าร่วมงานกว่า 300 ราย และในช่วงครึ่งวันบ่ายมีการจับคู่เจรจาธุรกิจจำนวน 58 คู่ คาดการณ์มูลค่าซื้อขายอีกเกือบ 30 ล้านบาท"
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้ให้ความสำคัญกับการขยายโอกาสทางการค้า และสนับสนุนผู้ส่งออกไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SMEs ให้สามารถทำการค้าระหว่างประเทศผ่านช่องทางออนไลน์ จึงได้พัฒนาตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ในนามเว็บไซต์ Thaitrade.com ขึ้นในปี 2554 นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับพันธมิตรด้านดิจิทัลระดับโลก อาทิ Alibaba, eBay, Google, PayPal, Line และ Facebook ในการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทย และผลักดันสินค้าไทยสู่ตลาดโลกผ่านช่องทางการค้าออนไลน์ ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งกลไกในการขับเคลื่อนภาคการค้าไทยสู่เศรษฐกิจยุคดิจิทัล สอดรับกับยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 ของรัฐบาลที่มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วยการใช้นวัตกรรม
