ข่าว

ครม.เคาะแพ็คเกจช่วยผู้มีรายได้น้อย เตรียมแจกเดือนก.ย.นี้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ครม.เคาะแพ็คเกจช่วยผู้มีรายได้น้อย เตรียมแจกเดือนก.ย.นี้

 

น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อวันที่ 29 ส.ค.60มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอโครงการประชารัฐสวัสดิการ เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จากผู้ลงทะเบียนทั้งสิ้น14.1ล้านคน และผู้มีสิทธิที่ได้รับการตรวจสอบสิทธิ์แล้ว11.67 ล้านคน โดยรัฐบาลจะเริ่มแจกบัตรให้กับคนจนที่มาลงทะเบียนกับรัฐตั้งแต่วันที่21ก.ย.นี้ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2560เป็นต้นไป 

ทั้งนี้การจัดสรรวงเงินให้ความช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะใช้วงเงินงบประมาณในการอุดหนุนสวัสดิการให้กับหน่วยงานต่างๆ ประมาณเดือนละ3,495ล้านบาท หรือปีละ41,940ล้านบาท โดยรัฐบาลได้ตั้งกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานรากขึ้นมาแล้ว และได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้วในปีงบประมาณ2561 วงเงิน46,000ล้านบาท 

โดยการจ่ายเงินให้ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการจะเป็นวงเงินในบัตรแบบเดือนต่อเดือน กรณีที่มีการใช้เงินไม่หมดก็จะไม่มีการสมทบวงเงิน และรัฐบาลจะจ่ายให้หน่วยงานต่างๆตามที่ประชาชนขอรับสวัสดิการจริงเพื่อไม่ให้รัฐบาลรับภาระค่าใช้จ่ายมากเกินไป  

อย่างไรก็ตามรัฐจะเปิดลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยเพิ่มเติมในปีหน้าส่วนผู้ที่มีการลงทะเบียนในปีนี้แล้วไม่ต้องมาลงทะเบียนใหม่แต่ทางกระทรวงการคลังจะตรวจสอบท่านว่ายังมีสิทธิหรือไม่โดยจะตรวจสอบจากข้อมูลการเสียภาษีอากร ข้อมูลบัญชีธนาคารและข้อมูลการถือครองอสังหาริมทรัพย์

สำหรับการให้ความช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแบ่งเป็น2ส่วน ได้แก่1.มาตรการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน โดยให้วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรมจากร้านธงฟ้าประชารัฐและร้านอื่นๆที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด โดยผู้มีรายได้สูงกว่า30,000บาทต่อปี แต่ไม่เกิน100,000บาทต่อปี จะได้วงเงินคนละ200บาทต่อเดือน และผู้ที่รายได้ต่ำกว่า30,000บาทต่อปี จะได้วงเงินคนละ300บาทต่อเดือน รวมทั้งจัดให้วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าที่กระทรวงพลังงานกำหนด45บาทต่อคนต่อ3เดือน 

"ในทางปฏิบัติ กระทรวงการคลังได้ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ จะนำเครื่องรูดบัตรอัตโนมัติที่ใช้สำหรับรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไปติดตั้งตามร้านค้าที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ซึ่งขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ได้นำฐานข้อมูลของผู้ลงทะเบียนไปสำรวจว่าร้านค้าควรจะกระจายในจุดใดของประเทศบ้าง ซึ่งตามเป้าหมายที่ตั้งไว้จะให้มีถึง500,000ร้านค้า เพื่อให้ประชาชนสามารถนำบัตรสวัสดิการไปใช้ในพื้นที่ต่างๆได้อย่างทั่วถึง"  

2.มาตรการช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางโดยจะให้วงเงินค่าโดยสารรถเมล์และรถไฟฟ้า500บาทต่อเดือน รถโดยสาร บขส.500บาทต่อเดือน และค่าโดยสารรถไฟ500บาทต่อเดือน โดยได้ร่วมกับกระทรวงคมนาคมในการดำเนินการ โดยคนกรุงเทพฯ และอีก6จังหวัด ประกอบด้วย สมุทรปราการ นนทบุรี สมุทรสาคร ปทุมธานี นครปฐม และอยุธยา จะได้รับบัตรสวัสดิการแบบที่มี2ชิป โดยชิปแรกจะใช้กับรถเมล์และรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบัตรแมงมุมหรือระบบตั๋วร่วมที่กระทรวงคมนาคมกำลังพัฒนาที่จะใช้กับระบบขนส่งมวลชนทั้งหมดในกรุงเทพมหานคร    

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ที่ประชุมครม. ได้รับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอแนวทางดำเนินการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม(e-ticket)ในปี2560-2561หรือที่เรียกว่าบัตรแมงมุม เพื่อใช้เชื่อมการเดินทางของประชาชนที่สัญจรโดยเรือโดยสารรถไฟฟ้าและรถประจำทาง โดยจะมีการจัดตั้งสำนักงานโครงการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมเป็นหน่วยงานในสังกัดของ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.)ขึ้นมาด้วยโดยบัตรแมงมุมจะนำร่องใช้กับรถเมล์ของ ขสมก.จำนวน800คันในวันที่1ต.ค.นี้เป็นต้นไป 

ด้านนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าที่ประชุม ครม.ได้เห็นชอบ โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯและปริมณฑล บริเวณประชานิเวศน์3จำนวน556หน่วย วงเงินลงทุน464.40ล้านบาท ประกอบด้วย เงินกู้ภายในประเทศ413.82ล้านบาทและเงินรายได้ของการเคหะแห่งชาติ50.59ล้านบาท เพื่อให้ผู้มีรายได้ไม่สูงนักเช่าซื้อโดยตั้งเกณฑ์รายได้ครัวเรือนละ24,700 – 35,300บาทต่อเดือนในสัดส่วน30 %และรายได้ปานกลางถึงสูง35,300 บาทต่อเดือนขึ้นไปในสัดส่วน70%

โดยมีกลุ่มเป้าหมายที่คนเรียนจบใหม่ คนเริ่มทำงานใหม่ และคนมีครอบครัวใหม่ ซึ่งนอกจากพื้นที่ต่างๆแล้วยังมีพื้นที่บริเวณลำลูกกาคลอง2เคหะชุมชนบางปู และพื้นที่ร่มเกล้าที่จะทยอยนำเสนอให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาต่อไป

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ