ข่าว

คลังเสนอใช้‘ม.44’ ดันก.ม.สตาร์ทอัพ หวังบังคับใช้ทันปีนี้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คลังเสนอใช้‘ม.44’ ดันก.ม.สตาร์ทอัพ หวังบังคับใช้ทันปีนี้

 

นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังไปเร่งดำเนินการเรื่องการร่วมลงทุนในกองทุนร่วมลงทุน(เวนเจอร์แคปปิตอล) เพื่อสนับสนุนกลุ่มสตาร์ทอัพ โดยกระทรวงการคลังได้เตรียมผลักดันกฎหมายสตาร์ทอัพ เพื่อมาแก้ไขปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นกับการร่วมทุนกลุ่มธุรกิจดังกล่าว แต่หากมีความจำเป็นต้องใช้มาตรา 44 เพื่อให้กฎหมายมีผลเร็วก็จะหารือพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาออกเป็นมาตรา 44

“กรอบของกฎหมายสตาร์อัพน่าจะแล้วเสร็จในช่วงเดือนก.ย.นี้ จากนั้น จะนำเสนอเข้าสู่คณะกรรมการสตาร์อัพแห่งชาติ ซึ่งจะพยายามให้มีผลบังคับใช้ภายในปีนี้”

นายสมชัย กล่าวว่า คงต้องพิจารณาด้วยว่า ขณะนี้มีกฎหมายใดที่เป็นอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจของสตาร์ทอัพ โดยจะใช้กฎหมายสตาร์ทอัพเพื่อยกเว้นการปฏิบัติตามกฎหมายอื่นๆ ซึ่งการใช้กฎหมายสตาร์ทอัพดังกล่าวนั้น จะเป็นการใช้เพียงชั่วคราว เพื่อรอการแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกัน

ทั้งนี้ ขณะนี้ต้องสรุปถึงความเหมาะสมของธุรกิจสตาร์ทอัพในไทย เช่น ในเรื่องของแซนด์บ็อกซ์ของทางประกัน ที่ยังไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกมาทดลอง โดยให้เฉพาะสถาบันการเงินหรือบริษัทประกันเท่านั้น ซึ่ง กฎหมายสตาร์ทอัพดังกล่าวอาจจะอนุญาตให้บุคคลอื่นมาทดลองใช้ได้ ส่วนในเรื่องของแท็กซี่อูเบอร์ ที่ยังผิดกฎหมายไทยนั้น คงต้องหารือกันอีกครั้งว่าในกฎหมายดังกล่าวจะอนุญาตให้ทำได้หรือไม่

“กฎหมายฉบับนี้จะต้องกำหนดชัดเจนว่าสตาร์ทอัพคืออะไร สิทธิประโยชน์ที่จะให้มีอะไรบ้าง และอุปสรรค์ที่เกี่ยวข้อง และเชื่อมโยงกับกฎหมายของกระทรวงอื่นๆ มีอะไร การผ่อนปรนจะให้เป็นการชั่วคราว และจะมีคณะกรรมการขึ้นมาดูว่าธุรกิจอะไรจะเปิดกว้างให้ดำเนินการในไทย ซึ่งกฎหมายดังกล่าวเปิดกว้างให้มาทำสตาร์อัพในไทยมากขึ้น ไม่จำกัดเฉพาะคนไทย จะให้ต่างชาติมาทำได้ด้วย”นายสมชัยกล่าว

นอกจากนี้ในเดือนส.ค.นี้ กระทรวงพาณิชย์จะเสนอให้แก้ไขกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพื่อสนับสนุนให้ดำเนินธุรกิจเอสเอ็มอี สตาร์ทอัพ เช่น การแจกหุ้นให้พนักงาน เมื่อมีการนำบริษัทหลักทรัพย์ได้ การสนับสนุนให้โอนย้ายเงินทุนจากต่างประเทศเข้าไทย รวมถึง เกี่ยวข้องในเรื่องระดมทุน จะมีการตั้งกระดานระดมทุนขึ้นมาในตลาดหลักทรัพย์โดยเฉพาะ เพื่อให้สตาร์ทอัพมีแหล่งเงินทุนเพิ่มเติมนอกเหนือจากการกู้เงินปกติจากสถาบันการเงิน คาดว่า การตั้งกระดานระดมทุนจะเริ่มเห็นในช่วงเดือนก.ย.-ต.ค.นี้

นอกจากนี้ รองนายกฯ ยังต้องการเห็นการตั้งชมรมสตาร์ทอัพในกลุ่มเด็ก มัธยมปลาย อาชีวะ กระจายไปทุกจังหวัดทั่วประเทศในช่วงเดือนตุลาคมนี้ เพื่อให้เด็กนักเรียนได้สร้างสรรค์แนวคิดใหม่ๆ และศึกษาเพิ่มเติมในระดับมหาวิทยาลัย นำไปสู่การประกอบอาชีพได้เอง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ