ข่าว

แก้ปัญหาคอขวด‘บีทีเอสตากสิน’สิ้นปีนี้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แก้ปัญหาคอขวด‘บีทีเอสตากสิน’สิ้นปีนี้

 

          นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่าปลายเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา กรมฯได้เห็นชอบหลักการปรับปรุงสถานีรถไฟฟ้าตากสินตามที่บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ บีทีเอสซี เสนอ เพื่อแก้ไขปัญหาคอขวดของรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ-บางหว้า หรือรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีลม

        โดยขั้นตอนหลังจากนี้ บีทีเอสซีจะต้องจัดทำรายละเอียดการออกแบบ กรอบระยะเวลาการก่อสร้างและขั้นตอนการจัดจราจรเพื่อเสนอให้กรมฯเห็นชอบอีกครั้ง โดยกระทรวงคมนาคมจะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

          นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บีทีเอสซี เปิดเผยว่า บีทีเอสซี และกรุงเทพมหานคร (กทม.) กำลังรอหนังสือยืนยันมติกรมทางหลวงชนบทอย่างเป็นทางการ เมื่อได้รับหนังสือแล้วจะเร่งออกแบบรายละเอียดเพื่อเสนอให้กรมทางหลวงชนบทพิจารณาโดยเร็ว รวมถึงจะหารือกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) เรื่องรายละเอียดการดำเนินงานและภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

           สำหรับขั้นตอนการอนุมัติโครงการหลังจากนี้คงใช้เวลาไม่นาน เพราะเห็นชอบหลักการเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปลายปีนี้

          โดยการก่อสร้างจะเริ่มจากการปรับปรุงช่องจราจรบนสะพานตากสินให้เสร็จก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับผู้ใช้รถยนต์ จากนั้นจึงขยายรางรถไฟฟ้าและสถานีบีทีเอสตากสิน โดยคาดว่าทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 1 ปีครึ่งถึง 2 ปีแล้วเสร็จ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาคอขวดของรถไฟฟ้าสายสีเขียวได้

            ปัจจุบันรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งหมดมีผู้ใช้บริการกว่า 1แสนคนต่อวัน และมีอัตราการเติบโตราว 5% ต่อปี แต่พบว่ารถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ-บางหว้ามีปัญหาความแออัดอย่างมาก แต่ไม่สามารถเพิ่มความถี่ของขบวนรถเพื่อรองรับผู้โดยสารได้ เพราะปัญหาคอขวดบริเวณสถานีตากสินส่งผลให้ขบวนรถต่อรอการสับหลีก

            รายงานข่าวแจ้งว่า การปรับปรุงสถานีบีทีเอสตากสินจะเริ่มจากการก่อสร้างทางเบี่ยงบนสะพานตากสินข้างละ 1.80 เมตร ระยะทาง 230 เมตร เพื่อไม่ให้เสียช่องการจราจรทางถนน จากนั้นจะรื้อชานชลาบีทีเอสเดิมออกเพื่อก่อสร้างรางคู่จากเดิมเป็นรางเดี่ยว ก่อสร้างชานชลา 2 ฝั่ง จากเดิมมี 1 ฝั่ง พร้อมปรับปรุงทางขึ้นลงให้เป็นตามมาตรฐาน โดยงบประมาณทั้งหมดอยู่ที่ราว 1,000 ล้านบาท

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ