ข่าว

บอร์ดอีอีซีไฟเขียวสร้างรถไฟทางคู่เชื่อม 3 ท่าเรือภาคตะวันออก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

บอร์ดอีอีซีไฟเขียวสร้างรถไฟทางคู่เชื่อม 3 ท่าเรือภาคตะวันออก

          นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(บอร์ดอีอีซี) แถลงผลการประชุมบอร์ดอีอีซีที่มีพล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานได้ เห็นชอบแนวทางการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกหลัก 3 แห่ง ได้แก่ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือสัตหีบ และท่าเรือมาบตาพุด โดยมีรถไฟทางคู่เข้าเชื่อมโยงท่าเรือ 3 แห่งให้มีระบบบริการการขนส่งสินค้าแบบไร้รอยต่อ ซึ่งเมื่อรวมกับโครงการสำคัญที่อนุมัติไปในการประชุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 เม.ย.60 ซึ่งประกอบด้วยโครงการเพิ่มศักยภาพสนามบินอู่ตะเภา และรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-ระยองแล้ว ถือว่าโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ในอีอีซีได้รับอนุมัติให้ดำเนินการครบแล้ว 
          "การประชุม 2 ครั้ง ได้อนุมัติโครงการที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานใหญ่ครบหมดแล้ว แสดงถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลปัจจุบันที่จะผลักดันโครงการอีอีซีให้เป็นศูนย์การทางเศรษฐกิจระดับโลก โดยประชุมในครั้งต่อ ๆ ไปก็จะเน้นเรื่องของการพัฒนาอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวและการพัฒนาเมือง ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังอีกส่วนของอีอีซี รวมถึงให้ความสำคัญกับการเชิญชวนนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในอีอีซีเพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าหมายว่าตลอด 5 ปี จะเชิญบริษัทขนาดใหญ่ให้เข้ามาลงทุนไม่น้อยกว่า 30 แห่ง เช่น กลุ่มแอร์บัส โบอิ้ง อาลีบาบา บริษัทใหญ่ๆ เหล่านี้จะดึงซัพพายเชนให้เข้ามาลงทุนในไทยด้วย" 

            ทั้งนี้ ระเบียบ EEC Track จะใช้เฉพาะกับโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน(พีพีพี) ที่สำคัญและมีความพร้อมตามแผนการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC Project List) เท่านั้น โดยในการประชุมครั้งนี้บอร์ดอีอีซีได้อนุมัติโครงการ EEC Project List จำนวน 4 โครงการ ซึ่งจะเข้าสู่กระบวนการของ EEC Trackที่จะใช้เวลาดำเนินการพีพีพี 8-10 เดือน รวม 691,471 ล้านบาท ได้แก่                1.โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก (Aerotropolis) วงเงิน 310,383 ล้านบาท 2. โครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน วงเงิน215,100 ล้านบาท 
 3.โครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะ 3 วงเงิน 155,834 ล้านบาท และ 4. โครงการท่าเรือมาบตาพุด ระยะ 3 วงเงิน 10,154 ล้านบาท  ส่วนโครงการรถไฟทางคู่เชื่อมท่าเรือ 3 แห่งนั้น ยังต้องศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการก่อน แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นโครงการพีพีพี

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ