ข่าว

“สมคิด” สั่ง3หน่วยงานรัฐร่วมมือภาคเอกชนตามแนวทางประชารัฐ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“สมคิด” สั่ง3หน่วยงานรัฐร่วมมือภาคเอกชนตามแนวทางประชารัฐ

              นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะทำงานประชารัฐเพื่อสังคม (อี6) ว่า เรื่องสำคัญที่คณะทำงานประชารัฐเพื่อสังคมจะต้องเร่งดำเนินการ ก็คือการจัดหาบ้านให้กับคนยากจนทั่วประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำในการผลักดันให้คนไทยทุกคนมีบ้านเป็นของตัวเอง
              โดยได้มอบหมายให้กรมธนารักษ์ การเคหะแห่งชาติ ธนาคารอาคารส่งเคราะห์ และภาคเอกชนโดยเฉพาะในกลุ่มวัสดุก่อสร้างเข้าร่วมดำเนินงานตามแนวทางประชารัฐ สร้างบ้านราคาถูกให้กับคนจน เพราะหากคนจนมีบ้านชีวิตในด้านอื่นๆก็จะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งจะต้องไปหารือกันให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว เพราะที่ผ่านมารู้สึกผิดหวังกับกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาก เนื่องจากรัฐบาลได้ขอให้เข้ามาร่วมมือกันในรูปแบบประชารัฐแล้วแต่ผ่านมา 1 ปี ก็ยังไม่เห็นความคืบหน้ามากนัก
            “กรมธนารักษ์ จะต้องไปจัดหาที่ดินราคาถูก ร่วมกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชน เช่น เอสซีจี ที่จะเข้ามาช่วยในการจัดหาวัสดุก่อสร้างราคาถูก มีกำไรน้อยลงหน่อย เข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคม  เพื่อให้มีต้นทุนที่ต่ำสุดนำมาสร้างบ้านให้กับคนจน รวมทั้งมีการปล่อยสินเชื่อที่มีดอกเบี้ยถูกเป็นพิเศษ ผ่อนระยะยาว เพื่อให้คนจนสามารถมีบ้านของตัวเองได้”
            นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดที่จะนำโครงการบ้านคนจนตามแนวทางประชารัฐนี้ เข้าเป็นโครงการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน (พีพีพี) ฟาสแทร็ค เพื่อพัฒนาสร้างบ้านราคาถูกให้กับคนจนทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นการระดมทุนจากเอกชนเข้าไปช่วยเหลือคนยากจน เพราะรัฐมีงบประมาณไม่มาก ซึ่งที่ผ่านมา โครงการ พีพีพี จะเป็นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ยังไม่มีโครงการที่จะเข้ามาช่วยเหลือประชาชนฐานราก
            ทั้งนี้ แนวทางการทำงานแบบประชารัฐ จะช่วยแก้ไขปัญหาด้านต่างๆของประเทศได้อย่างจริงจัง เพราะจากประสบการที่ผ่านมา รัฐบาลผลักดันเพียงฝ่ายเดียวไม่สามารถสำเร็จได้ จำเป็นอย่างยิ่งจะต้องดึงภาคเอกชน ประชาสังคม ต่างๆ และหน่วยงานรัฐประสานความร่วมมือ จึงจะแก้ไขปัญหาที่สำคัญต่างๆของประเทศไทยได้
             นายสมคิด กล่าวว่า ความร่วมมือตามแนวประชารัฐนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากต่างประเทศ โดย นายชิโร ซะโดะชิมะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ได้มาร่วมนำเสนอรูปแบบการทำงานด้านการจ้างงานผู้พิการ ผู้สูงอายุ และการร่วมมือด้านความปลอดภัยทางถนนของประเทศญี่ปุ่นที่ได้ดำเนินงานร่วมกับบริษัทเอกชนในประเทศจนประสบความสำเร็จแล้ว และพร้อมให้ความร่วมมือกับไทยด้วย ซึ่งคณะทำงานจะต้องไปไปสรุปความต้องการให้ชัด จากนั้นจึงจะไปหารือกับทางหอการค้าญี่ปุ่นอีกครั้ง เพื่อจะได้เข้ามาสนับสนุนได้ตรงจุด
            “เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นยังยินดีที่จะประสานกับบริษัทของญี่ปุ่นที่เข้ามาลงทุนในไทย เข้ามาร่วมในคณะทำงานประชารัฐให้เข้ามาร่วมกับท้องถิ่นต่างๆในการพัฒนาสังคมอีกด้วย ซึ่งประเทศญี่ปุ่นเป็นชาติแรกที่เข้ามาร่วมประชารัฐ จะเป็นแบบอย่างให้ประเทศอื่นๆเข้ามาร่วมด้วยต่อไป”
            ในขณะที่กระทรวงการคลัง ก็จะต้องลงไปช่วยดูว่าจะช่วยเหลือด้านภาษีให้กับบริษัทญี่ปุ่นที่เข้ามาช่วยอย่างไรได้บ้าง รวมทั้งไปหาทางสนับสนุนการจัดตั้งสถาบันการเงินชุมชน และการจัดตั้งกองทุนประชารัฐเพื่อสังคม ซึ่งจะเป็นกลไกหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมได้ในระดับพื้นที่ และยังต่อยอดไปถึงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนด้วย
            นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ควรจะลงไปจัดสัมมนาครั้งใหญ่ระดมความร่วมมือว่าบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯว่าจะเข้ามาช่วยคณะทำงานประชารัฐเพื่อสังคมในด้านใดได้บ้าง ให้แต่ละบริษัทชี้เป้าว่าจะเข้ามาช่วยอะไร ลงไปแมชชิ่งกับท้องถิ่นให้ความช่วยเหลืออย่างตรงจุด และรัฐจะออกมาตรการจูงใจทางภาษีเข้ามาช่วย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ