ครม.อนุมัติ“เอสเอ็มอี”นำค่าติดตั้งโปรแกรมคอมลดหย่อนภาษี

              การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อวันที่ 27มิ.ย.60 ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก(SMEs)ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยกำหนดให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจ่ายค่าซื้อ หรือค่าจ้างทำ หรือค่าใช้บริการโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อนำมาใช้ในการประกอบกิจการจากผู้ประกอบการที่ขายหรือรับจ้างทำหรือให้บริการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟท์แวร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน) สามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักภาษีรายจ่ายได้ 2 เท่า แต่ไม่เกิน 100,000 บาท สำหรับระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 ม.ค.2560-31ธ.ค.2562 รวม 3 รอบปีบัญชี

             นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับเอสเอ็มอีที่สามารถใช้สิทธิได้นั้นจะต้องเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีทุนชำระแล้วไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการในรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 30 ล้านบาท

            ทั้งนี้ โครงการฯดังกล่าว เกิดขึ้นจากการที่รัฐบาลมีนโยบายในการสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศผ่านนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลที่จะยกขีดความสามารถแข่งขันของประเทศและวางรากฐานของเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศอย่างจริงจังให้เกิดขึ้นกับทุกภาคส่วนเศรษฐกิจ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายดังกล่าวจึงสมควรมีมาตรการส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ให้มีโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายใช้เป็นเครื่องมือในการดำเนินงานและบริหารจัดการธุรกิจ ซึ่งจะเป็นการช่วยรวบรวมข้อมูลรวมถึงรายงานทางการเงินของธุรกิจเป็นไปอย่างมีระบบและทันสมัย เพิ่มความคล่องตัวในการประกอบธุรกิจ แข่งขันได้ในทางการค้า

            สำหรับผลกระทบที่ตามมาจากโครงการฯนี้  กระทรวงการคลัง ประเมินว่า ในทางบวกจะสามารถจูงใจให้เอสเอ็มอีนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาใช้เป็นเครื่องมือในการดำเนินงานเพิ่มศักยภาพในการทำธุรกิจมากขึ้น ทำให้ข้อมูลของผู้ประกอบการเข้าสู่ฐานข้อมูลภาครัฐมากขึ้น ซึ่งรัฐสามารถนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้ประโยชน์ในการกำหนดมาตรการ หรือกลไกในการส่งเสริมและสนับสนุนด้านต่างๆ แต่ในทางลบนั้น คาดว่ามาตรการนี้จะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ประมาณ 800 ล้านบาทต่อปี 3 รอบปีบัญชี รวม 2,400 ล้านบาท