ข่าว

รฟม. เตรียมเสนอครม. จ่อเวนคืนแนวรถไฟฟ้า3สาย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รฟม. เตรียมเสนอครม. จ่อเวนคืนแนวรถไฟฟ้า3สาย

              นายภคพงค์ ศิริกันทรมาศ รองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยหลังการประชุมแนวทางการแก้ไขปัญหาพื้นที่โครงการรถไฟฟ้าที่มี นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธานเมื่อวันที่ 27มิ.ย.60ว่า รฟม. ได้หารือกับกระทรวงคมนาคม กรมทางหลวง (ทล.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เพื่อขอใช้พื้นที่ก่อสร้างรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล

             ที่ประชุมฯ ได้พิจารณาแล้วพบว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาใดๆ แต่ขอให้รฟม. กลับไปพิจารณาเทคนิคการก่อสร้างเพิ่มเติมในบางพื้นที่เพื่อไม่ให้กระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท โดยเมื่อรายละเอียดต่างๆ ชัดเจนแล้วจึงอนุญาตให้ผู้รับเหมาเข้าพื้นที่ก่อสร้างรถไฟฟ้าได้

               สำหรับการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กิโลเมตร มีประเด็นเรื่องการจัดทางระบายน้ำ เพราะการก่อสร้างรถไฟฟ้าต้องใช้พื้นที่เกาะกลาง ซึ่งเป็นทางระบายน้ำในปัจจุบัน รฟม.จึงแก้ปัญหาด้วยการต่อท่อระบายน้ำจากเกาะกลางไปทางเท้าและขยายทางเท้าให้กว้างขึ้นเพื่อให้ระบายน้ำได้เท่าเดิม

                 นอกจากนี้ จะขอใช้พื้นที่สำนักงานแขวงการทางวัดศรีเอี่ยมประมาณ 10 ไร่ ก่อสร้างเป็นจุดจอดแล้วจร (Park&Ride) ของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งในเบื้องต้น กรมทางหลวงได้เห็นชอบหลักการแล้ว แต่พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินราชพัสดุ ดังนั้น รฟม. จึงต้องเสนอเรื่องต่อกรมธนารักษ์เพื่อขอเปลี่ยนชื่อผู้ใช้พื้นที่ต่อไป

                  ด้านรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร มีปัญหาบริเวณสถานีหลักสี่ เพราะการก่อสร้างจะเข้าไปในพื้นที่แขวงการทางหลักสี่ประมาณ 15% ดังนั้น กรมทางหลวง จึงขอให้ปรับแบบจุดดังกล่าวเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบหรือส่งผลกระทบน้อยที่สุด

                 การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 23.6 กิโลเมตรจะต้องพิจารณาไม่ให้กระทบกับโครงสร้างสะพานพระปกเกล้าและสะพานพระราม 3 ส่วนรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกช่วงตลิ่งชัน (บางขุนนนท์) -ศูนย์วัฒนธรรมฯ ระยะทาง 16.4 กิโลเมตรจะต้องพิจารณาไม่ให้กระทบกับตอม่อสะพานพระปิ่นเกล้า 

               “คิดว่าจะให้เอกชนเข้าพื้นที่ก่อสร้างรถไฟฟ้าเหลือง-ชมพูได้ไม่เกินไตรมาสที่ 3 หรือเดือน ส.ค.- ก.ย. นี้ สายสีเหลืองจะให้เข้าพื้นที่บริเวณศรีนครินทร์ก่อน ส่วนพื้นที่ในเมืองอาจจะชะลอไว้นิดนึงเพื่อไม่ให้กระทบกับจราจร เพราะตอนนี้มีการก่อสร้างสายสีเขียวอยู่ ส่วนสายสีชมพูจะเริ่มสร้างจากเกาะกลางและน่าจะเข้าพื้นที่ได้เยอะกว่า เพราะไม่ซ้อนทับกับการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายอื่น ด้านรถไฟฟ้าส้มตะวันออก ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี จะเริ่มตอกเสาเข็มทดสอบการรับน้ำหนักวันที่ 10 ก.ค. นี้ บริเวณมิสทีส รามคำแหง” นายภคพงค์กล่าว

               ขณะนี้ รฟม.ได้ประสานกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เพื่อเตรียมปรับการจราจรรองรับการก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้งหมดแล้ว ซึ่งทางตำรวจขอให้รฟม.เร่งทำแผนประชาสัมพันธ์เรื่องการปิดกั้นพื้นที่เพื่อช่วยลดปัญหาจราจรด้วย 

               นอกจากนี้ รฟม. กำลังเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาออกประกาศเวนคืนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู, เหลือง และส้มเป็นการเร่งด่วน เพื่อให้อำนาจฝ่ายกรรมสิทธิ์ที่ดิน รฟม. เวนคืนพื้นที่ของเอกชนซึ่งไม่ยอมตกลงเจรจา เมื่อประกาศมีผล รฟม.ต้องวางค่าเวนคืนเป็นระยะเวลา 60 วัน จึงสามารถครอบครองพื้นที่ได้ 

            “ถ้าไม่ออกประกาศ รฟม.ก็ต้องออก พ.ร.บ.เวนคืนเป็นรายแปลง ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 2 ปีจึงจะเวนคืนที่ดินของเอกชนได้” 

             นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า การปล่อยกู้ในโครงการลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้า 2 สาย คือสายสีชมพู และสายสีเหลืองนั้น ธนาคารคาดว่าจะสรุปเรื่องการหาพันธมิตรปล่อยกู้ หรือซินดิเคทได้ภายใน 2 เดือนนี้ โดยเบื้องต้นคาดว่าโครงการนี้จะใช้เงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ประมาณ 7-8 หมื่นล้านบาท ซึ่งธนาคารกรุงเทพเป็นธนาคารหลักในการให้สินเชื่อ ร่วมกับธนาคารอื่น

               นายชาติศิริ กล่าวอีกว่าในปีนี้จะมีการเบิกใช้เงินกู้ไม่มาก ส่วนใหญ่จะไปเบิกใช้ในปีหน้า และปีถัดไป ซึ่งโครงการลงทุนนี้ ก็จะส่งผลดีต่อเอสเอ็มอีในอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างด้วย ซึ่งธนาคารกรุงเทพก็มีลูกค้าในกลุ่มนี้อยู่ด้วย 

                รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.60 ร.ฟ.ท. ได้เปิดประมูลงานก่อสร้างรถไฟทางคู่ 2 สัญญา ได้แก่ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านกลับ-โคกกระเทียม (ทางรถไฟยกระดับ) ระยะทาง 29 กิโลเมตร วงเงิน 10,147 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 3 งานอุโมงค์รถไฟ ระยะทาง 8 กิโลเมตร วงเงิน 9,399 ล้านบาท

               ร.ฟ.ท. จะเปิดขายเอกสารประกวดราคาทั้ง 2 สัญญาไปจนถึงวันที่ 4 ก.ค. นี้ จากนั้นจะให้เวลาเอกชนจัดทำข้อเสนอ 45 วัน ก่อนแจ้งผลผู้มีสิทธิ์เสนอราคาในวันที่ 28 ส.ค. และประกวดราคาทางอิเล็กทรอนิกส์วันที่ 7 ก.ย.

                ในเบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้รับเหมาไทยเข้าร่วมประมูลงานอุโมงค์ เส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ แบบเดี่ยวได้ 3 ราย ได้แก่บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือITD,บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน)หรือCKและบริษัท ไรท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด

                 ส่วนงานก่อสร้างทางยกระดับเส้นทางลพบุรี-ปากน้ำโพ คาดว่าจะมีเอกชนไทยเข้าร่วมประมูลแบบเดี่ยวได้ 4 ราย คือITD, CK,บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)หรือSTECและบริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน)หรือNWR

               อย่างไรก็ตาม เมื่อ ร.ฟ.ท. เปิดประมูลงานโยธางรถไฟทางคู่ 2 สัญญานี้เรียบร้อยแล้ว ก็จะพิจารณาเปิดประมูลระบบอาณัติสัญญาณรถไฟทางคู่ที่เหลืออีก 3 สัญญา ได้แก่ สายเหนือ, สายตะวันออกเฉียงเหนือ และสายใต้ เพื่อให้ครบตามคำสั่งคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐต่อไป 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ