ข่าว

สคร.ตั้งเป้า5ปีรัฐวิสาหกิจพ้นขาดทุน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สคร.ตั้งเป้า5ปีรัฐวิสาหกิจพ้นขาดทุน

 

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวในระหว่างการสัมมนา “แผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจรายสาขา” เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 60 ว่าในแผนการดูแลรัฐวิสาหกิจของ สคร.ระยะ 5 ปีข้างหน้า (2560-2564) ตั้งเป้าหมายว่า รัฐวิสาหกิจจะต้องไม่มีผลขาดทุน และรัฐวิสาหกิจที่อยู่ในแผนฟื้นฟูทั้งหมด จะต้องสามารถออกจากแผนฟื้นฟูได้

นายเอกนิติ กล่าวอีกว่า ในด้านผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ จะต้องสามารถเปรียบเทียบกับในอุตสาหกรรมเดียวกันได้ด้วย

ปัจจุบัน มี 7 รัฐวิสาหกิจ ที่มีผลขาดทุน และอยู่ในแผนฟื้นฟูของคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ(คนร.) คือบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน), บริษัท กสท. โทรคมนาคม, ธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) การรถไฟแห่งประเทศไทย และ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)

“เพื่อให้รัฐวิสาหกิจสามารถขับเคลื่อนแผนงานต่างๆ ได้ตามแผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจ ปี 2560 - 2564 ดังนั้น สคร. ได้กำหนดให้รัฐวิสาหกิจจัดทำสมรรถนะและความรู้ที่จำเป็น (Skill Matrix) สำหรับกรรมการรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้สามารถสรรหาคณะกรรมการที่มีทักษะและความเชี่ยวชาญเฉพาะที่จะช่วยผลักดันให้รัฐวิสาหกิจดำเนินการได้ตามแผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจด้วย”

ทั้งนี้ สคร.ได้จัดสัมมนาแผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจ  โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจเข้าใจแผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจในภาพรวมและรายสาขาที่คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจได้เห็นชอบ เพื่อจะนำไปใช้ในการจัดทำแผนการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันและสอดคล้องกับกรอบยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่12 

   นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาในงาน “แผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจ” ว่า การลงทุนของรัฐวิสาหกิจ มีส่วนสำคัญในการผลักดันการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณนี้ (ต.ค.2559 - เม.ย.2560) งบลงทุนของรัฐวิสาหกิจขยายตัว 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มีส่วนทำให้ไตรมาสแรกของปีนี้ เศรษฐกิจไทย ขยายตัวถึง 3.3%

ปัจจุบัน รัฐวิสาหกิจไทยที่มีทั้งหมด 56 แห่ง มีสินทรัพย์รวมกัน 14 ล้านล้านบาท,มีรายได้รวม 5 ล้านล้านบาท, รายจ่ายรวม 4.5 ล้านล้านบาท และนำเงินเข้าคลังราว 1 แสนล้านบาท, งบลงทุนของรัฐวิสาหกิจคิดเป็น 50% ของงบลงทุนของรัฐบาล

นายสมคิด กล่าวว่า การดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ จะต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของรัฐบาลด้วย ซึ่งภายใต้ยุทธศาสตร์ชาตินั้น รัฐบาลต้องการให้การเติบโตระหว่างจากแรงขับเคลื่อนจากปัจจัยภายนอกคือ การส่งออก กับปัจจัยภายในคือ การเติบโตจากเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งรัฐวิสาหกิจมีบทบาทสำคัญในการสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศ 

      นายสมคิด กล่าวว่า ในปัจจุบัน รัฐบาลได้เดินหน้าแผนยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อสร้างความมั่นคงของประเทศ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ลดความเหลื่อมล้ำ เร่งพัฒนาบุคลากร โดยแต่ละองค์กรจะต้องมีเป้าหมาย เพื่อนำไปสู่อนาคต เช่น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT จะต้องเร่งสร้างท่าอากาศยานไปเชื่อมในแต่ละภูมิภาค เนื่องจากด้านคมนาคมเป็นสิ่งสำคัญ

       “ใครบอกยุทธศาสตร์ไม่จำเป็น ไม่ต้องฟัง หากประเทศไม่มีหางเสือจะทำยังไง การยึดหลักยุทธศาสตร์มันไม่ดีตรงไหน ทุกอย่างมันไม่มีอะไรผิด ความคิดต่างมันมีได้ เพราะตำรายังไม่เหมือนกัน แต่ยุทธศาสตร์หลักมันต้องมี และเป็นตัวยึด ซึ่งเราได้บรรจุในรัฐธรรมนูญเรียบร้อยแล้ว ด้านการพัฒนาหากยกตัวอย่าง เช่น การท่าฯ มีเงินเยอะ ต้องลงทุน มีเงินอย่าเก็บไว้ในกระเป๋า เราต้องกระจายการเชื่อมต่อ ธนาคารออมสิน เอสเอ็มอีแบงก์ ธ.ก.ส. ต้องเร่งสร้างเอสเอ็มอีเริ่มต้นใหม่ๆ” นายสมคิด กล่าว

   นายสมคิด กล่าวว่า นอกจากนี้ รัฐวิสาหกิจ จะต้องเป็นตัวเร่งสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจในทุกด้าน โดยเฉพาะการค้าขาย เพื่อให้เศรษฐกิจหมุนเวียน เนื่องจากตอนนี้ ได้กำหนดพื้นที่ค้าขาย มีผู้ประกอบการ แม่ค้า พ่อค้า เดือดร้อนบ้าง ดังนั้น อยากให้รัฐวิสาหกิจช่วยหาพื้นที่ให้มีที่ขายของได้ ด้านการลงทุนนั้น ขณะนี้งบประมาณมีหลายด้าน ทั้งเงินกู้ เงินให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ หรือ PPP เงินงบประมาณ และกองทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน หรือ ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ ซึ่งยืนยันว่า จะขายให้กับประชาชนก่อน เปิดขายให้กับนักลงทุน

  “ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ ถือเป็นหนึ่งโครงการที่ทำให้ไม่ต้องรองบประมาณ วิธีนี้ทำให้เราประหยัดงบ หนี้สาธารณะต่อจีดีพีจะอยู่ตามมาตรฐานไม่เกิน 60% แน่นอน เพราะไม่อยากให้หวังกระทรวงการคลังช่วยตลอด ด้านอีอีซี ถือเป็นตัวหลักที่เราพยายามขับเคลื่อน โดยจะเน้นการเพิ่มความคุ้มค่า การวิจัย นวัตกรรม พัฒนา ซึ่งตอนนี้ สหรัฐ ยุโรป ยืนยันว่าสนใจมาลงทุน แต่เราจะต้องเตรียมพร้อม ทั้งคน พลังงาน คมนาคม เป็นต้น” นายสมคิด กล่าว

  นายสมคิด กล่าวว่า ขณะที่การเดินหน้าสู่ไทยแลนด์ 4.0 โลกดิจิทัล ดังนั้นบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ TOT และ บริษัท กสท. โทรคมนาคม จำกัด หรือCAT ต้องไม่เลื่อนเวลา โดยปีนี้จะต้องเดินหน้าอินเทอร์เน็ตหมู่บ้านให้ได้ 24,000 หมู่บ้าน และปีหน้า 20,000 หมู่บ้านให้ได้ 

ด้านนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า นโยบายของกระทรวงการคลัง ไม่ได้เน้นให้รัฐวิสาหกิจทำกำไรสูงสุด เพราะมีภารกิจที่ต้องดูแลประชาชนด้วย แต่ต้องการให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ใช่ว่า กว่าจะทำเรื่องหนึ่งเรื่องใด ต้องใช้เวลานานถึง 3-4 ปี ขณะที่ ในเรื่องเดียวกันเอกชนใช้เวลาแค่ครึ่งปี และรวมถึงรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งจะต้องวางกฎเกณฑ์ เพื่อสร้างระบบธรรมาภิบาลที่ดี หรือ CG เพื่อไม่ให้ใครเข้ามาล้วงลูกได้

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมากระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นของรัฐวิสาหกิจ ได้ปรับเปลี่ยนบทบาทของกรรมการผู้แทนกระทรวงการคลัง ให้แอคทีฟขึ้น เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ถือหุ้นเชิงรุก (Active Shareholder) มากขึ้น รวมทั้ง บูรณาการการทำงานให้รัฐวิสาหกิจทำงานร่วมกันผ่านการสัมมนาผู้บริหารระดับสูงรัฐวิสาหกิจ (SOE CEO Forum) เพื่อรวมพลังรัฐวิสาหกิจ ทำให้รัฐวิสาหกิจเป็นหุ้นส่วนเชิงรุก (Active Partner) ของรัฐบาล ในการขับเคลื่อนนโยบาย 

นอกจากนี้ รัฐวิสาหกิจจะต้องปรับการดำเนินงานของตนเองให้สอดคล้องกับบทบาท เน้นประสิทธิภาพในการดำเนินงาน รวมถึงส่งเสริมให้เกิดระบบธรรมาภิบาลในองค์กร

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ