ประมูลสัมปทาน"ที่จอดรถ"ดอนเมืองระอุ

             แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ ทอท.เปิดเผยถึงความคืบหน้า โครงการสร้าง และบริหารจัดการอาคารจอดรถยนต์ ณ ท่าอากาศยานดอนเมืองที่ทอท.เตรียมเปิดให้เอกชนเข้ารับสัมปทานระยะเวลา 15 ปี โดยเปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอเมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาโดยมีเอกชนเข้ายื่นข้อเสนอรวม 5 รายนั้นว่า หลังจากคณะกรรมการพิจารณาประกวดราคาได้เปิดซองข้อเสนอทางเทคนิคและราคาเสร็จสิ้นแทนที่จะประกาศผลประกวดราคา แต่กลับสั่งให้บริษัทเอกชนทุกรายยื่นข้อเสนอราคากลับเข้าไปใหม่ โดยอ้างว่าทุกรายมีผลคะแนนทัดเทียมกัน จึงให้ยื่นข้อเสนอราคาเข้าไปใหม่ สร้างความแปลกประหลาดใจให้แก่ผู้เข้าประมูลอย่างมาก และเห็นว่าน่าจะมีความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น               อย่างไรก็ตามมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักถึงพฤติกรรมของทอท.ต่อการประมูลครั้งนี้ว่า มีความพยายามให้ความช่วยเหลือบริษัทเอกชนรายหนึ่งให้รับสัมปทานไป ทั้งที่เอกชนรายดังกล่าวส่อมีปัญหาด้านคุณสมบัติ เนื่องจากเคยถูกเมืองพัทยายกเลิกสัมปทานบริหารที่จอดรถแหลมบาลีฮายมาก่อน เพราะติดค้างชำระค่าเช่า ทั้งยังมีปัญหาถูกฟ้องในโครงการก่อสร้างอาคารจอดรถอัตโนมัติ มหาวิทยาลัยรามคำแหง แต่ฝ่ายบริหาร ทอท.กลับอ้างว่า ไม่ขัดเงื่อนไขทีโออาร์ที่ห้ามเฉพาะผู้ที่เคยถูกทอท.ยกเลิกสัญญาหรือค้างชำระหนี้กับทอท.หรือมีข้อพิพาทกับทอท.จนถึงขั้นฟ้องร้องในชั้นอนุญาโตตุลาการเท่านั้น   ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนาหูว่ามีรายการล็อกสเปคโอบอุ้มบริษัทเอกชนรายนี้

               อย่างไรก็ตาม 1 ในบริษัทเอกชนที่เข้าประมูลเผยว่า ทอท.น่าจะจำบทเรียนกรณีสัมปทานลานจอดรถที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเมื่อ 6-7 ปีก่อน ซึ่งเคยให้สัมปทานแก่บริษัทตามใบสั่งการเมืองมาแล้ว แต่บริษัทเอกชนรายดังกล่าวกลับลากเอาสัญญาไปขายต่อจนทำให้เกิดการฟ้องร้องภายในบริษัท และลุกลามไปถึงขั้นมีการนำชายฉกรรจ์ชุดดำนับร้อยคนเข้ามาปิดล้อมทางเข้า-ออกและยึดลานจอดรถในสนามบินสุวรรณภูมิ จนสร้างความแตกตื่นแก่ผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวมาแล้ว สร้างความเสียภายต่อภาพพจน์ของทอท.อย่างหนัก และแม้ภายหลังบอร์ดทอท.จะมีมติให้ยกเลิกสัญญา แต่ก็มีปัญหาฟ้องร้องคาราคาซังกันมาหลายปีกว่าจะได้ข้อยุติ

                 “ครั้งนี้ก็เช่นกัน ทอท.เองรู้ทั้งรู้ว่าบริษัทที่เข้าประมูลรายหนึ่งมีปัญหาด้านคุณสมบัติก็ยังเดินหน้าปกป้องและถึงขั้นจะพิจารณาให้ชนะประมูล โดยไม่หวั่นเกรงปัญหาที่จะเกิดตามมา แทนที่ทอท.จะพิจารณาเดินหน้าโครงการนี้อย่างโปร่งใสให้เอกชนที่ไม่มีปัญหาด้านคุณสมบัติได้แข่งขันอย่างเป็นธรรม ซึ่งน่าจะเป็นทางออกที่เหมาะสมกว่า แต่กลับสั่งให้ควานหามือมืดที่นำเอาเอกสารเรื่องนี้เล็ดรอดออกไปแทน”  

              อย่างไรก็ตามสำหรับบริษัทเอกชนเข้ายื่นข้อเสนอทั้ง 5 รายนั้นประกอบด้วย 1.บจ.เอ็มพีเม็ก 2.บจ.ปาร์ค 2โก ในนามกิจการร่วมลงทุน NWR-P2G Consortium 3.บจ.เป๋าตังค์ 4.บจ.สมบุญ พัฒนาและ 5.กิจการร่วมค้าเจนก้องไกลฟอร์คอน ขณะที่ผู้สันทัดกรณีมองว่า โครงการสัมปทานลานจอดรถดังกล่าวแม้ทอท.จะอ้างว่ามีมูลค่าโครงการราว 680 ล้านบาท แต่มูลค่าที่แท้จริงนั้นหลายฝ่ายมองว่าอาจจะทะลักไปเกิน 1,000 ล้านบาทที่เข้าข่ายจะต้องดำเนินการตาม พรบ.การให้เอกชนเข้าร่วมทุนในกิจการของรัฐหรือพรบ.พีพีพีปี 2

                                                     ......................................