ข่าว

เร่งกม.ลูก5ฉบับ เปิดขายทีโออาร์ 2 แหล่งก๊าซฯส.ค.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กรมเชื้อเพลิงฯเร่งกม.ลูก5ฉบับ เปิดขายทีโออาร์ 2 แหล่งก๊าซฯส.ค.

               นายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ (ชธ.) เปิดเผยว่า การเปิดรับฟังความคิดเห็นร่างกฎกระทรวง 5 ฉบับ สำหรับผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) และผู้รับสัญญาจ้างผลิต(SC)ตามร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ปิโตรเลียม พ.ศ... ที่รอประกาศใช้ ไม่ถือว่าเป็นการดำเนินการที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560

              ทั้งนี้เนื่องจากกฎหมายไม่ได้กำหนด ให้ร่างกฎกระทรวงดังกล่าวต้องผ่านการรับฟังความคิดเห็น แต่กรมฯต้องการรับฟังข้อมูลรอบด้าน เพราะกฎหมายดังกล่าวถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับไทย ตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้สั่งให้กรมฯเร่งดำเนินการออกฎกระทรวงดังกล่าว คู่ขนานไปกับการรอ พ.ร.บ.ปิโตรเลียม ประการใช้ เพื่อให้การเปิดประมูลสำรวจและผลิตปิโตรเลียม 2 แหล่ง คือ เอราวัณและบงกช ที่จะหมดอายุในปี 2565-2566 สามารถดำเนินการได้ตามแผนภายในปีนี้

             สำหรับการรับฟังความคิดเห็นกฎกระทรวง 3 ฉบับ ที่เกี่ยวข้องกับระบบPSCจะปิดรับฟังความคิดเห็นวันนี้(26พ.ค.) ส่วนกฎกระทรวง อีก 2 ฉบับ ที่เกี่ยวข้องกับระบบ SC คาดว่าจะเปิดรับฟังความคิดเห็นได้ภายใน 2 เดือน จะทำให้การออกกฎกระทรวงทั้ง 5 ฉบับ เสร็จสิ้น และจะนำเสนอคณะกรรมการกฤษฎีกา กลั่นกรองข้อกฎหมาย ก่อนส่งให้ครม.ประกาศใช้ต่อไป แต่ทั้งนี้การจะเสนอครม.ต้องดำเนินการหลัง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม ประกาศใช้แล้วเท่านั้น

              ขณะที่ร่างหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการประมูล (Bidding TOR) เปิดประมูลแหล่งสัมปทานที่จะหมดอายุ มีความคืบหน้าไปมาก แต่ยังต้องปรับหลักเกณฑ์ในบางประเด็นให้ชัดเจน โดยเฉพาะแผนรักษาอัตราการผลิตก๊าซ ที่อาจกำหนดให้ต้องรักษาอัตราการผลิตก๊าซไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน จากปัจจุบันผู้รับสัมปทานเดิมผลิตได้ราว 2,160 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน  หากดำเนินการไม่ได้ตามแผนจะมีบทลงโทษ โดยจ่ายค่าปรับให้รัฐรวมถึงการกำหนดราคาเพดานรับซื้อก๊าซฯที่เหมาะสม  อยู่ระหว่างเจรจากับบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) ที่เป็นผู้รับซื้อก๊าซฯจาก 2 แหล่งสัมปทานหมดอายุ เป็นต้น

             นายวีระศักดิ์ กล่าวว่าหาก พ.ร.บ.ปิโตรเลียม ประกาศใช้อย่างเป็นทางการ คาดว่า อย่างช้าที่สุดจะสามารถขายTOR เพื่อเปิดประมูลแหล่งสัมปทานหมดอายุได้ภายในเดือนส.ค.นี้ และจะเสร็จสิ้น หรือได้รายชื่อผู้ชนะการประมูลภายในเดือน ก.พ. 2561

             ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 25 พ.ค.60 เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) นำโดย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ น.ส.บุญยืน ศิริธรรม เดินทางมายืนหนังสือที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน กระทรวงพลังงานเพื่อคัดค้านร่างกฎกระทรวง 3 ฉบับ ที่นำมาเปิดรับฟังความคิดเห็น โดยมีนายธีระศักดิ์ จรัสศรีวิสิษฐ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นตัวแทนรับเรื่องร้องเรียนและเตรียมนำเสนอต่อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน รวมถึงผู้บริหารระดับสูงในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาข้อเท็จจริงตามข้อเรียกร้องดังกล่าวต่อไป

                 สำหรับประเด็นการคัดค้าน ร่างกฎกระทรวง 3 ฉบับนั้น คปพ. ไม่เห็นด้วยที่นำมาเปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านเว็บไซต์ เพราะเป็นการรับฟังความเห็นที่ไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะประชาชนที่ไม่มีคอมพิวเตอร์หรือมือถือ เป็นต้น

             รวมถึงการกำหนดให้นำส่งอัตราค่าภาคหลวง 10% ของผลผลิตปิโตรเลียมที่ขาย เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะตามระบบPSCค่าภาคหลวงจะต้องได้รับเป็นปิโตรเลียม ดังนั้น การกำหนดให้เอกชนนำปิโตรเลียมไปขายแล้วมาจ่ายเงินค่าภาคหลวงให้กับรัฐในภายหลังเป็นการลอกแบบมาจากสัมปทานจึงเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง

              นอกจากนี้ ยังไม่มีการจัดตั้งองค์กรของรัฐที่จะเข้าดูแลระบบPSCทำให้ไม่เป็นผลตอบแทนสูงสุดแก้รัฐ โดยหากข้อเรียกร้องดังกล่าวไม่ได้รับการพิจารณา หรือแก้ไขในทิศทางที่เกิดประโยชน์ต่อประเทศ ทาง คปพ.อาจต้องพึ่งอำนาจทางกฎหมายอาญาต่อไป

              ทั้งนี้ร่างกฎกระทรวง 3 ฉบับที่ คปพ.คัดค้าน ได้แก่ 1. ร่างกฎกระทรวงหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาในการนำส่งค่าภาคหลวงให้แก่รัฐ สำหรับผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต พ.ศ. ....2.ร่างกฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอและการได้รับสิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต พ.ศ. ....และ3.ร่างกฎกระทรวง กำหนดแบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต พ.ศ. ....

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ