ไจก้าจี้ร.ฟ.ท.คุมเข้มก่อสร้างสายสีแดง

 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังหารือกับไจก้าว่าร.ฟ.ท.ในฐานะเจ้าของโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง จึงได้เสนอแผนการดูแลความปลอดภัยเพิ่มเติมให้กระทรวงคมนาคมและไจก้าพิจารณาในที่ประชุม ซึ่งไจก้าก็ได้เห็นชอบแผนตามที่เสนอและกำชับว่าต้องปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวอย่างจริงจังด้วย

นอกจากนี้ ไจก้าได้ขอให้ ร.ฟ.ท. ให้ความสำคัญกับการดูแลผู้รับเหมามากขึ้น เพราะที่ผ่านมา ร.ฟ.ท. ปล่อยให้ผู้รับเหมารับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยในการก่อสร้างและชดเชยความเสียหายจากอุบัติเหตุเพียงฝ่ายเดียว ขณะเดียวกันไจก้ามองว่าที่ปรึกษาควบคุมงานควรเข้ามามีบทบาทและความรับผิดชอบเพิ่มขึ้นด้วย โดยเฉพาะการตัดสินใจให้ผู้รับเหมาเริ่มดำเนินงานก่อสร้างแต่ละขั้นตอน เพื่อควบคุมการทำงานให้ดียิ่งขึ้น

ขณะนี้ ร.ฟ.ท. จึงได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด เพื่อเข้าไปกำกับบริษัทที่ปรึกษาอีกชั้นหนึ่งตามคำแนะนำของไจก้าซึ่งจะช่วยอุดช่องว่างในการทำงานระหว่างที่ปรึกษาและเจ้าของโครงการได้ โดยคณะกรรมการชุดนี้จะประกอบด้วยตัวแทนจาก 3 ฝ่าย คือ เจ้าของโครงการคือ ร.ฟ.ท. ซึ่งอาจเป็นระดับรองผู้ว่า ร.ฟ.ท. บริษัทที่ปรึกษาคุมงาน และผู้รับเหมาคือบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือITD

“คณะกรรมการฯ จะมีอำนาจสั่งหยุดงานชั่วคราวในกรณีที่เห็นว่าถ้าทำต่อไปอาจเกิดปัญหา หรืออาจสั่งให้หยุดงานเพื่อรอแก้ไขปัญหาให้เสร็จก่อนโดยพิจารณาจากเทคนิคทางด้านวิศวกรรม เช่น เมื่อพบว่าคานก่อสร้างมีอาการติดขัด ก็ต้องสั่งหยุดงานทันที ไม่ใช่ปล่อยให้คนงานเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะขยับเองหรือไม่” นายอาคมกล่าว

สำหรับความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงนั้น ปัจจุบัน ร.ฟ.ท. ยังสั่งให้ITDหยุดงานก่อสร้างไว้ชั่วคราว เนื่องจากต้องรอผลการสอบสวนข้อเท็จจริง และต้องเตรียมมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งไจก้าก็ได้แสดงความกังวลว่า โครงการนี้อาจจล่าช้ามากขึ้น จากเดิมที่ล่าช้าอยู่แล้วจากปัญหาการรื้อย้ายสาธารณูปโภคใต้ดินที่มีจำนวนมากอยู่แล้ว

ดังนั้น ร.ฟ.ท. อาจต้องยื่นแผนการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงให้ไจก้าพิจารณาอีกครั้ง โดยฝ่ายไทยอาจจำเป็นต้องขอขยายระยะเวลาการก่อสร้างออกไปอีก เพื่อชดเชยให้กับผู้รับเหมาที่ต้องหยุดงานก่อสร้างชั่วคราวจากปัญหาอุบัติเหตุ ส่วนจะขยายเวลาเป็นเท่าใดยังตอบไม่ได้

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าไจก้าอาจพิจารณาขึ้นบัญชีดำITDจากกรณีที่ปล่อยให้มีอุบัติเหตุร้ายแรงระหว่างการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงจนมีผู้เสียชีวิต แต่ภายหลัง ร.ฟ.ท. ก็ได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม กรณีนี้ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยและส่งผลให้การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงล่าช้าออกไปอีก ทำให้กระทรวงคมนาคมต้องหารือร่วมกับไจก้าเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง รวมทั้งนำเสนอมาตรการและกลไกในการป้องกันและแก้ไขปัญหาความปลอดภัยระหว่างงานก่อสร้าง เพื่อให้ไจก้ามั่นใจและไม่ขึ้นบัญชีดำไทย

สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงเริ่มต้นเมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2556 ตามสัญญากำหนดแล้วเสร็จวันที่ 10 ก.พ. 2560 รวมระยะเวลาก่อสร้าง 1,440 วัน หรือ 4 ปี แต่ภายหลังทางผู้รับเหมาได้อ้างเรื่องที่ ร.ฟ.ท. ส่งมอบพื้นที่ล่าช้า และมีปัญหาการย้ายท่อส่งน้ำมันของบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด ตามแนวเส้นทาง จึงขอขยายระยะเวลาก่อสร้างออกไปเป็นปี 2561 เลื่อนไปเป็นปี 2562 จนกระทั่งเป็นปี 2563 และล่าสุดมีแนวโน้มจะขยายระยะเวลาก่อสร้างให้กับทางผู้รับเหมาออกไปอีก