ข่าว

สสว.จับมือสถาบันการศึกษาเปิดโครงการStart up ปี60

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สสว.จับมือสถาบันการศึกษาเปิดโครงการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ (Start up)ปี2560

         สสว.จับมือสถาบันการศึกษาเปิด“โครงการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ (Start up)ปี 2560 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ”เดินหน้ารับสมัครSmart Farmersและผู้สนใจเข้าโครงการStart Upในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

          เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2560 ที่ห้องปุทมทิพย์ โรงแรมสุนีย์แกรนด์ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานเปิดโครงการ“โครงการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ (Start up)ปี 2560 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ”จัดโดย สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) โดยมี มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

            นายอัครพงศ์ ศรีสุพรรณดิฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดโครงการครั้งนี้ เพื่อบ่มเพาะเกษตรกรSmart Farmerวิสาหกิจชุมชน/เครือข่ายวิสาหกิจ ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและบุคคลทั่วไป ที่ต้องการยกระดับเป็นSMEsภาคการเกษตร และเพื่อบ่มเพาะSMEsทั่วไป ประชาชนที่สนใจจะประกอบธุรกิจ หรือต้องการเริ่มประกอบธุรกิจใหม่ โดยการสร้างต้นแบบธุรกิจที่มีศักยภาพให้เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับจังหวัด เพื่อเชื่อมโยงผู้ประกอบการที่เข้ารับการบ่มเพาะ ในการช่วยเหลือและดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจร่วมกัน ตลอดจนเชื่อมโยงกับวิสาหกิจขนาดใหญ่

           นายอัครพงศ์ ศรีสุพรรณดิฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เริ่มดำเนินโครงการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ (Start Up)ในภาคการผลิตและบริการตั้งแต่ปี 2559 โดยร่วมกับมหาวิทยาลัยราชมงคลทั้ง 9 แห่ง ที่มีศูนย์ บ่มเพาะกระจายอยู่ทั่วประเทศ มีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ 10,797 ราย ผ่านเข้าสู่ขั้นทำแผนธุรกิจ 5,415 ราย โดยพี่เลี้ยงซึ่งเป็นนักธุรกิจท้องถิ่นจะช่วยพิจารณาว่าแผนธุรกิจมีความเป็นไปได้ในเชิงพาณิชย์หรือไม่ หากแผน เป็นไปได้จริง สสว. จะช่วยสนับสนุนให้สามารถทำธุรกิจต่อไปได้ เช่น ประสานกับธนาคารSMEหรือธนาคาร ออมสินในเรื่องเงินกู้ รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการตลาด สำหรับปี 2560 สสว. ต่อยอดโครงการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ (Start Up)ขยายกลุ่มเป้าหมายเป็น ภาคการเกษตรจำนวน 5,000 ราย ภาคการผลิต การค้า และบริการ จำนวน 5,000 ราย สำหรับ จ.อุบลราชธานี รับสมัครเกษตรกร คนรุ่นใหม่ที่ มีความสนใจ รวมถึงผู้ที่เริ่มต้นกิจการไม่เกิน 3 ปี ซึ่งมีพื้นฐานความรู้ด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและความคิด สร้างสรรค์เข้าร่วมโครงการฯ เมื่อได้ผู้สนใจแล้ว สสว. จะส่งต่อไปยังศูนย์บ่มเพาะตามความเชี่ยวชาญของแต่ละสถาบัน

              โดยในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สสว. ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา กระบวนการบ่มเพาะจะเน้นปูพื้นฐานความรู้ที่จำเป็นด้านการบริหารจัดการธุรกิจ เช่น การตลาดยุคใหม่ การแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้า โดยใช้นวัตกรรมใหม่และเทคโนโลยีจากงานวิจัยมาต่อยอดผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในตลาดไปสู่เชิงพาณิชย์ การพัฒนาปรับปรุงเทคโนโลยีและเครื่องมือเพื่อเพิ่มผลผลิตและยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตรและเกษตร แปรรูป จนผ่านการรับรองให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐาน รวมถึงเพิ่มทักษะการเข้าถึงแหล่งข้อมูลทั้งเรื่อง แนวโน้มและโอกาสทางธุรกิจบนฐานของข้อมูลการตลาด (Marketing Intelligence)ท้ายสุดคือสามารถเขียน และจัดทำแผนธุรกิจที่เป็นไปได้จริงในเชิงพาณิชย์ร่วมกับนักธุรกิจในพื้นที่ ซึ่งศูนย์บ่มเพาะจะเชิญเข้ามาเป็นพี่เลี้ยง โดย สสว. ตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถบ่มเพาะSMEเกษตร และSMEในภาคการค้าภาคการผลิต และบริการได้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ราย ภายในปี 2560 2 ปัจจุบัน โครงการStart Upมีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการแล้วประมาณ 5,000 ราย แบ่งเป็นภาคเกษตร จำนวน 3,000 ราย และภาคอื่นๆ 2,000 ราย ขณะนี้ยังเปิดรับสมัครผู้ประกอบการภาคการเกษตร ภาคการผลิต ภาคการค้า และภาคบริการที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนการค้า หรือผู้ที่เพิ่งเริ่มดำเนินธุรกิจไม่เกิน 3 ปี นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป และวิสาหกิจชุมชนสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้

              ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อินทิรา ซาฮีร์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและพันธกิจสังคม มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กล่าวว่า มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีมีความพร้อมและตระหนักถึงความสำคัญในการขับเคลื่อนSMEsให้เจริญเติบโตอย่างยั่งยืน ตามที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนSMEsให้เจริญเติบโตอย่างยั่งยืนเช่นกัน เพื่อเป็นแรงผลักดันเศรษฐกิจให้เกิดความเข้มแข็งนั้น จึงได้เห็นชอบให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ดำเนินยุทธศาสตร์และแผนการดำเนินงานส่งเสริมSMEsระยะเร่งด่วนปี2558ซึ่งมุ่งเน้นงานที่สามารถเริ่มดำเนินการได้ทันที และให้ความสำคัญกับการปรับปรุงการบริหารจัดการ งานส่งเสริมSMEsให้มีประสิทธิภาพ มีเอกภาพ ดำเนินงานสอดคล้องในทิศทางเดียวกัน และมีการสร้างกลไก หรือโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการสนับสนุนให้ SMEs สามารถเริ่มต้นธุรกิจและเติบโตได้ตามวงจรธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ