พลังงานทุ่มงบกว่า 200 ล้านสร้างศูนย์กลางตรวจสอบคุณภาพน้ำมัน

              วันที่ 27 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมคณะผู้บริหาร เดินทางไปตรวจเยี่ยมชมอาคารทดสอบคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง ที่อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี บนเนื้อที่ 71 ไร่ 2งาน 86.7 ตร.ว. ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานแห่งที่สองของกรมธุรกิจพลังงาน โดยมีนายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ข้าราชการท และเจ้าหน้าที่ ต้อนรับ

             ทั้งนี้กรมฯได้ทุ่มงบประมาณมากกว่า 200 ล้านบาท สร้างเป็นศูนย์กลางการตรวจสอบคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงและการอบรมและถ่ายเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยในการประกอบธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิง

            พล.อ.อนันตพร กล่าวว่า ศูนย์ฯแห่งนี้จะทำหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีคุณภาพถูกต้องเหมาะสมกับเครื่องยนต์ และได้รับความปลอดภัยจากการเข้าไปใช้สถานที่ประกอบธุรกิจน้ำมัน ซึ่งนอกจากจะดำเนินการตรวจสอบคุณภาพน้ำมันตามภารกิจของตัวเองแล้ว ยังต้องให้บริการแก่หน่วยงานอื่นๆ เช่น กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร งานปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง ตำรวจน้ำ เป็นต้น ในการตรวจพิสูจน์ยืนยันคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในการลักลอบการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงจากนอกราชอาณาจักรด้วย

            หลังจาก พล.อ.อนันตพร และคณะ ได้รับฟังบรรยายสรุป จากนั้นเยี่ยมชมอาคารต่าง ๆ และห้องปฎิบัติการทดสอบคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดต่าง ๆ

                “ปัจจุบันห้องปฏิบัติการตรวจสอบคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงมีเครื่องมือตรวจสอบคุณภาพที่ทันสมัย มีความถูกต้อง แม่นยำ เป็นไปตามมาตรฐานสากล และเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในผลการทดสอบของทางราชการ กรมธุรกิจพลังงาน และผู้ค้าน้ำมันได้ร่วมกันจัดทำโครงการทดสอบคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อเปรียบเทียบผลการทดสอบระหว่างห้องปฏิบัติการ (Thai Petroleum Laboratories Correlation Program) วัตถุประสงค์เพื่อขจัดปัญหาการโต้แย้งผลการตรวจสอบ และเพื่อเตรียมการเข้าสู่ Thailand 4.0 จึงได้จัดทำโครงการยกระดับความสามารถทางวิชาการของห้องปฏิบัติการตรวจสอบคุณภาพน้ำมันเพื่อขอคำรับรองห้องปฏิบัติการ ISO 17025”รมว.พลังงานกล่าว

            ทั้งนี้ กรมธุรกิจพลังงานได้มีการกระจายอำนาจในการกำกับดูแลสถานประกอบกิจการน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด (สำนักงานพลังงานจังหวัด) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรมธุรกิจพลังงานจึงต้องให้ความรู้และแนวทางปฏิบัติแก่เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบตามหน่วยงานดังกล่าว เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง ได้มาตรฐาน และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน