ข่าว

ชงครม.ของบเวนคืนโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เพิ่ม 243 ล้าน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

การรถไฟฯ เล็งชง ครม. ของบเวนคืนโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย เพิ่ม 243 ล้านบาท หลังติดปัญหาผู้รับเหมาเข้าพื้นที่บางส่วนไม่ได้

               นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ระยะทาง 106 กิโลเมตร ว่า ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับกรอบวงเงินโครงการนี้ ที่มีวงเงินประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งอาจจะต้องขออนุมัติกรอบวงเงินในการเวนคืนที่ดินเพิ่มเติม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะต้องกลับไปจัดทำรายละเอียดและส่งข้อเสนอกลับมาให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาในสัปดาห์หน้า

            ส่วนความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-ญี่ปุ่น เส้นทางกรุงเทพฯ–พิษณุโลก-เชียงใหม่ ระยะทาง673กิโลเมตร วงเงินลงทุน5.5 แสนล้านบาท ในการหารือกับฝั่งญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 26 เม.ย. ที่ผ่านมา ทางญี่ปุ่นยืนยันแล้วว่าจะนำเสนอรายงานการศึกษาความเหมาะสมฉบับสมบูรณ์ให้ไทยพิจารณาได้ในเดือน มิ.ย. ตามเป้าหมายเดิม

            โดยรายงานดังกล่าวจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบการร่วมทุน วงเงินลงทุน เส้นทาง รูปแบบการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ รวมไปถึงมาตรการให้ความช่วยเหลือทางด้านการเงินให้กับฝ่ายไทยซึ่งอาจจะเป็นการเสนอให้วงเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำ

            “กระทรวงคมนาคมต้องนำผลการศึกษาดังกล่าวไปขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และคาดว่าเสนอโครงการให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม. ) พิจารณาอนุมัติโครงการได้ประมาณเดือน ส.ค. นี้ จากนั้นจะเริ่มออกแบบก่อสร้าง ส่วนฝ่ายญี่ปุ่นจะร่วมลงทุนในโครงการตามที่ไทยเชิญชวนหรือไม่ ก็ต้องพิจารณารายงานความเหมาะสมก่อนจึงสรุปได้”

              รายงานข่าวจาก ร.ฟ.ท. เปิดเผยว่า ได้เตรียมเสนอให้ที่ประชุม ครม. พิจารณาเพิ่มวงเงินการเวนคืนที่ดินโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย จำนวน 243 ล้านบาท เนื่องจากกรอบวงเงินเดิมไม่เพียงพอ เพราะคำนวณด้วยวิธีเก่าตั้งแต่ก่อนเปิดประมูล แต่เมื่อคำนวณค่าชดเชยด้วยวิธีใหม่ซึ่งเป็นธรรมมากขึ้น ก็ส่งผลให้วงเงินสูงขึ้นด้วย

              ในขณะนี้ รฟท. ไม่สามารถจ่ายค่าเวนคืนให้ประชาชนบางส่วน ส่งผลให้ผู้รับเหมาไม่สามารถเข้าพื้นที่และเริ่มกังวลว่าจะกระทบกับแผนงานที่จะทยอยเปิดให้บริการในเดือน ต.ค. นี้ จากนั้นจะเปิดบริการครบทั้งเส้นทางในเดือน ก.พ. 2562 ดังนั้นจึงต้องเร่งเสนอเรื่องนี้ให้ ครม. เห็นชอบโดยเร็วที่สุด

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ