ข่าว

ซันสวีท’ ขยายไลน์สินค้า รับดีมานด์ต่างประเทศพุ่ง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ซันสวีท เร่งขยายไลน์สินค้าต่อยอด “ข้าวโพดหวาน” รับดีมานด์บริโภคใน-ต่างประเทศพุ่ง

             นายองอาจ กิตติคุณชัย ประธานกรรมการ บริษัท ซันสวีท จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวาน ภายใต้แบรนด์สินค้า KC เปิดเผยว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมอาหารทั้งในและต่างประเทศ ยังคงมีการเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะการส่งออกขยายตัวสูงทุกปี เนื่องจากความต้องการด้านอาหารของโลกที่เพิ่มขึ้น 

ขณะที่ข้าวโพดหวานซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทมีความต้องการในตลาดเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยภาพรวมปริมาณการส่งออกข้าวโพดหวานปี 2559 อยู่ที่ 5.8 แสนตันต่อปี ซึ่งประเทศไทยส่งออกข้าวโพดหวานเป็นอันดับหนึ่งของโลก

           ปีนี้บริษัทคาดว่าจะใช้ปริมาณข้าวโพดหวาน 1.3 แสนตันในการผลิตสินค้า เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 30%  ตั้งเป้าสร้างยอดขาย 2,000 ล้านบาท จากปี 2559 มียอดขายประมาณ 1,670  ล้านบาท  มาจากการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ และการเพิ่มสินค้าใหม่ให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้ามากขึ้น

           ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการส่งออก 80%  และจำหน่ายในประเทศ 20% โดยส่งออกให้ลูกค้ากว่า 300 ราย ใน 70 ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่มประเทศเอเชียที่มีความต้องการสินค้าเป็นจำนวนมาก เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน รวมไปถึงกลุ่มตะวันออกกลาง เช่น อิหร่าน และยุโรป 

สินค้าหลัก ประกอบด้วย ข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋อง 70% ข้าวโพดหวานแช่แข็ง 20% และข้าวโพดหวานแบบฝักบรรจุสุญญากาศ ซึ่งมีจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อในประเทศ ประมาณ 10%

           “ซันสวีทมุ่งวิจัยและพัฒนาสินค้าที่ต่อยอดจากข้าวโพดหวานเพื่อผลิตและจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ เช่น น้ำนมข้าวโพดพร้อมดื่ม ข้าวโพดคลุกเนย และข้าวโพดปิ้ง คาดว่าจะได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าเดิมและใหม่”

           การขยายไลน์สินค้าดังกล่าว  คาดว่าจะสามารถผลิตและจำหน่ายได้ภายในปี 2560 นอกจากนี้บริษัทเตรียมผลิตและจำหน่ายสินค้าอื่นๆ นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ที่ได้จากข้าวโพดหวาน เช่น ถั่วขาวในซอสมะเขือเทศ

           ทั้งนี้ บริษัทมีเกษตรกรที่เข้าร่วมทำสัญญาในลักษณะคอนแทรคฟาร์มมิ่งกว่า 2 หมื่นราย ครอบคลุมพื้นที่ในเขตภาคเหนือตอนบนและล่าง โดยมีพื้นที่ปลูกข้าวโพดหวานทั้งหมด 5 หมื่น-1 แสนไร่ ทำให้บริษัทมีผลผลิตข้าวโพดหวานที่แน่นอน สามารถผลิตสินค้าได้ตามปริมาณคำสั่งซื้อที่มีเข้ามาได้อย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการจัดทำฟาร์มต้นแบบ หรือ “สมาร์ทฟาร์ม” ซึ่งเปิดโอกาสให้เกษตรกรได้นำองค์ความรู้ไปใช้ในการควบคุมการเพาะปลูกให้มีความแม่นยำเพื่อสร้างผลผลิตต่อไร่ให้เพิ่มสูงขึ้น โดยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย การจัดการระบบน้ำ การให้ปุ๋ย การวัดอุณหภูมิ ความชื้น ความร้อน แสงแดด จนถึงการเก็บเกี่ยว และการขนส่ง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ