ข่าว

แบงก์ธนชาตยังมั่นใจสินเชื่อปีนี้โตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 4-5%

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แบงก์ธนชาตยังมั่นใจสินเชื่อปีนี้โตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 4-5%

          นายสมเจตน์   หมู่ศิริเลิศ    ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารธนชาต จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารคาดว่าสินเชื่อปีนี้จะยังเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 4-5%จากปีก่อนหน้าที่มีสินเชื่ออยู่ที่ 6.91 แสนล้านบาท แม้ว่าในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ สินเชื่อรวมจะมีการปรับลดลงเล็กน้อย หรือลดลง 1.27%จากช่วงสิ้นปี2559 เนื่องจากสินเชื่อรายย่อยมีสัญญาณเติบโตดีพอสมควร โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์

         “ปีนี้สินเชื่อรถยนต์จะกลับมาเติบโตได้ดีขึ้น จากยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น คาดว่าอยู้ที่ 8-8.1 แสนคัน จากปีก่อนหน้ายอดขายรถยนต์ในประเทศอยูที่ 7.6 แสนคัน ซึ่งในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ยอดขายรถยนต์เติบโตได้ถึง 13% ปีนี้ธนาคารตั้งเป้าเติบโตสินเชื่อดังกล่าว 27% จากปีที่ผ่านมา หดตัวโดยปัจจุบันสัดส่วนรถยนต์ใหม่อยู่ที่ 70% รถยนต์มือสอง 30% ซึ่งสัดส่วนไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากปีที่ผ่านมา”

          ในขณะที่สินเชื่อธุรกิจลูกค้ารายใหญ่ปีนี้ธนาคารตั้งเป้าเติบโต3-4% จากปีที่ผ่านมาหดตัวลงแม้ว่าไตรมาสแรกจะปรับลดลง 6.9%ส่วนใหญ่เนื่องจากลูกค้าหันไประดมทุนในตลาดทุนแทนการขอสินเชื่อ อย่างไรก็ตาม ธนาคารก็ได้ให้การบริการโดยเป็นที่ปรึกษาทางการเงินซึ่งสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมให้กับธนาคารเป็นอย่างดี

          นอกจากนี้การให้สินเชื่อรายใหญ่ธนาคารก็จะจัดกลุ่มลูกค้าให้ชัดเจน แล้วใช้กลยุทธ์การให้บริการที่แตกต่างกันในแต่ละกลุ่ม ซึ่งจะช่วยให้สินเชื่อในกลุ่มนี้มีการเติบโตได้ โดยปีนี้จะเน้นที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนโครงการภาครัฐโดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่จะเห็นการลงทุนในครึ่งปีหลังและพลังงานทางเลือกที่เฉพาะทางที่ธนาคารประเมินว่ามีโอกาสอยู่

         สำหรับตัวเลขหนี้ที่มิก่อให้เกิดรายได้หรือ เอ็นพีแอล(NPL)ปีนี้ ธนาคารตั้งเป้าควบคุมไม่ให้เกิน 2.2-2.3% ในปีนี้ ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงจากปีก่อนหน้าซึ่งพีแอลที่มีอยู่ ก็เป็นเอ็นพีแอลที่มีอยู่เดิม ส่วนเอ็นพีแอลสินเชื่อใหม่อยู่ในอัตราที่ต่ำมาก ต่ำกว่าอุตสาหกรรม

           ขณะที่การตั้งสำรองของธนาคาร ยังอยู่ในระดับปกติโดยปัจจุบันอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ(coverate ratio)อยู่สูงถึง 150% ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับระบบที่เฉลี่ยอยู่ที่ 130-140% แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการบริหารหนี้เอ็นพีแอลของธนาคาร ทั้งการปรับโครงสร้างหนี้การตัดขายหนี้โดยที่ผ่านมาธนาคารได้มีการตัดขายหนี้ออกไปเป็นระยะๆ

      "ผลประกอบการของธนาคารในไตรมาสแรกของปีนี้ มีการเติบโตเป็นไตรมาสที่ 9 ติดต่อก่อน ซึ่ง ธนาคารก็จะพยายามรักษาการเติบโตนี้ไว้ แม้ไตรมาสแรกสินเชื่อจะลดลงเล็กน้อย หากรัฐยังลงทุนต่อเนื่องเศรษฐกิจก็จะกลับมาขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปส่วนกำลังซื้อของประชาชนก็จะกลับมาดีขึ้นตามเม็ดเงินที่รัฐจะอัดฉีดเข้าสู่ระบบทุกๆอย่างกำลังฟื้นตัว”

        โดยไตรมาส 1 ปี 2560 ธนาคารแจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า มีกำไรสุทธิ 3,272 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.30%จากไตรมาสก่อน ขณะที่เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิเติบโต 15.05% เป็นผลมาจาก การมุ่งเน้นความแข็งแกร่งของคุณภาพสินทรัพย์อย่างต่อเนื่อง การบริหารค่าใช้จ่ายสำรองอย่างมีประสิทธิภาพ และการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ  

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ