ข่าว

ขนส่งผนึกทหาร ตำรวจเข้มมาตรการความปลอดภัยรับสงกรานต์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย - โต๊ะข่าวเศรษฐกิจ

 วันที่ 29 มีนาคม 2560 เวลา 13.00 น. ณ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2รอ.) คณะทำงานเพื่อพิจารณาปัญหาการดำเนินการจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะ นำโดยพล.ต.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2รอ.) นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก พร้อมด้วย พล.ต.ท.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และนายนพรัตน์ การุณยะวนิช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด ร่วมประชุมชี้แจงความพร้อมการนำรถตู้โดยสารสาธารณะเข้าสถานีปลายทาง (ต่างจังหวัด) รวมถึงมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2560 โดยภายหลังจากการย้ายจุดจอดรถตู้โดยสารสาธารณะกรุงเทพฯ – ต่างจังหวัด เข้าใช้สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ ทั้ง 3 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา

         พร้อมกันนี้ยังให้แต่ละจังหวัดดำเนินมาตรการเข้มงวดให้รถตู้โดยสารภายในจังหวัดเข้าใช้สถานีขนส่งผู้โดยสารเป็นจุดรับส่งเช่นเดียวกับในส่วนกลาง หรือหากมีการใช้พื้นที่อื่นเป็นจุดจอดต้นทาง ปลายทางให้จัดทำบัญชีสถานที่ดังกล่าวไว้เป็นสถานีขนส่งผู้โดยสารชั่วคราว ซึ่งบริเวณจุดจอดดังกล่าวต้องมีมาตรฐานความปลอดภัย มาตรการดูแลอำนวยความสะดวก เช่นเดียวกับสถานีขนส่งผู้โดยสาร เช่น มีป้ายอัตราค่าโดยสาร ตารางการเดินรถ ที่พักผู้โดยสาร ที่พักพนักงานขับรถ ห้องสุขา เป็นต้น

            โดยปัจจุบันมีกำหนดสถานที่เป็นสถานีขนส่งผู้โดยสารชั่วคราวปลายทางแล้ว จำนวน 29 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี กำแพงเพชร จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ชัยนาท ชัยภูมิ ตราด นครนายก นครปฐม นครราชสีมา นครสวรรค์ ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา พิจิตร เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระแก้ว สระบุรี สิงห์บุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง อุทัยธานี โดยคณะกรรมการจัดระเบียบและแก้ไขปัญหารถตู้โดยสารสาธารณะได้ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมและซักซ้อมเพื่อทำความเข้าใจตามแนวทางปฏิบัติในการจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะเข้าใช้สถานีขนส่งผู้โดยสารชั่วคราว การจัดสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้กับผู้ใช้บริการ รวมถึงการจัดการระบบรักษาความปลอดภัยบริเวณสถานที่จอดรถโดยสารประจำทาง

           นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการขนส่งทางบกได้ขานรับนโยบายรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย และลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุจากรถโดยสารทุกประเภทให้เหลือน้อยที่สุด โดยเฉพาะในระยะเร่งด่วนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2560 ได้ดำเนินการภายใต้มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกตามคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 14 /2560 ซึ่งกรมการขนส่งทางบกได้ออกประกาศกรมการขนส่งทางบกเรื่องการติดตั้งเข็มขัดนิรภัยและตำแหน่งที่นั่งเพื่อกำหนดคุณสมบัติและการติดตั้งเข็มขัดนิรภัย ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ พ.ศ. 2555 และตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกที่ต้องจัดให้มีเข็มขัดนิรภัย พ.ศ. 2555 โดยกำหนดให้รถยนต์ส่วนบุคคล รถบรรทุกและรถโดยสารสาธารณะทุกประเภทต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยไปเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะรถตู้โดยสารต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง ทุกคัน และในทุกเส้นทาง สำหรับรถโดยสารที่วิ่งระหว่างกรุงเทพมหานครไปต่างจังหวัด (หมวด 2) และที่วิ่งระหว่างจังหวัด (หมวด 3 ) กำหนดให้ต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง ทุกคัน ทุกเส้นทาง ซึ่งหากเป็นรถขนาดเล็กที่วิ่งภายในจังหวัด และจดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2537 เป็นต้นไป ต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยส่วนที่นั่งด้านหน้าของคนขับและที่นั่งตอนหน้าคู่คนขับ

              ทั้งนี้ ผู้ประกอบการต้องกำชับพนักงานขับรถทุกคนให้ย้ำเตือนผู้โดยสารให้คาดเข็มขัดนิรภัยตลอดการเดินทาง สำหรับมาตรการเพิ่มความปลอดภัยในรถโดยสารสาธารณะตามคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 15/2560 กรมการขนส่งทางบกพร้อมดำเนินการทันที ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดของประกาศกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับรถตู้โดยสารให้มีการปรับปรุงแก้ไขตัวรถให้ผู้โดยสารสามารถออกจากตัวรถได้ง่ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และกำหนดจำนวนที่นั่งผู้โดยสารต้องไม่เกิน 13 ที่นั่ง รวมทั้งให้ผู้ประกอบการรถสาธารณะต้องจัดทำสมุดประจำรถ ตรวจสอบสภาพและความพร้อมของรถและผู้ขับรถพร้อมทำบันทึกการตรวจสอบดังกล่าว และต้องจัดทำประกันภัยเพิ่มเติมจากประกันภัยตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองผู้โดยสารและบุคคลภายนอก โดยต้องแสดงหลักฐานการจัดทำประกันภัยทั้งภาคบังคับและที่จัดทำเพิ่มเติม ก่อนดำเนินการจดทะเบียนหรือชำระภาษีรถประจำปี

          รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวด้วยว่า สำหรับมาตรการกำกับดูแลรถโดยสารสาธารณะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2560 ได้กำหนดให้รถตู้โดยสารสาธารณะร่วมบริการกับบริษัท ขนส่ง จำกัด ที่มีเส้นทางวิ่งกรุงเทพฯ – ต่างจังหวัด ต้องติดตั้ง GPS Tracking แบบ Realtime Online ควบคู่กับการติดตั้งเครื่องบ่งชี้พนักงานขับรถ (เครื่องรูดใบขับขี่แสดงตัวตนพนักงานขับรถ) ในรถทุกคันทุกเส้นทางและเชื่อมโยงข้อมูลกับศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS อย่างสมบูรณ์ ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2560 ซึ่งผู้โดยสารและผู้ประกอบการสามารถมีส่วนร่วมในการกำกับตรวจสอบพฤติกรรมการขับรถได้ผ่าน application “DLT GPS” แบบ Realtime เช่นเดียวกัน รวมถึงให้สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่งออกตรวจจับความเร็วรถโดยสารสาธารณะด้วยกล้องเลเซอร์ในเส้นทางสายหลักเข้า–ออกกรุงเทพมหานครอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ