ข่าว

คมนาคมจ้างบีอีเอ็มเดินรถ‘สีน้ำเงินต่อขยาย’

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย -โต๊ะข่าวเศรษฐกิจ

                นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 28 มี.ค.60 ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบผลการคัดเลือก การเจรจา และร่างสัญญาการว่า จ้างบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือBEM ให้ติดตั้งระบบและบริหารเดินรถ โครงการรถไฟฟ้าสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ รวมทั้ง ช่วงบางซื่อ-เตาปูน

              โดยให้นำสัญญาการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางซื่อ ที่จะสิ้นสุดสัมปทานในปี2572 มารวมกับสัญญาการเดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย และให้ทั้ง 2 ส่วนสิ้นสุดสัมปทานพร้อมกันในปี2592 แต่ค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินทั้งเส้นทางจะต้องเก็บค่าแรกเข้าเพียงครั้งเดียวและคงอัตราค่าโดยสารสูงสุดไว้ที่ 42 บาท เท่ากับปัจจุบัน ซึ่งคิดเป็นผลประโยชน์ที่คืนให้กับประชาชนประมาณ 62,569 ล้านบาท หรือ ปีละ 2,085 ล้านบาท

           สำหรับผลการเจรจากับBEM เรื่องค่าใช้จ่ายในการลงทุนระบบรถไฟฟ้าอยู่ที่ 20,826 ล้านบาท ลดลงจากเดิม 4,617 ล้านบาท, ค่างานดำเนินการและบำรุงรักษา(O&M) 207,062 ล้านบาท ลดลง 32,840 ล้านบาท, อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่5.5%ในช่วง 3 ปีแรก และเพิ่มขึ้น 0.25%ต่อปี แต่สูงสุดอยู่ที่ 7.5% และผลตอบแทนอยู่ที่ 27,813 ล้านบาท ถ้าผู้โดยสารเป็นไปตามประมาณการ โดยผลตอบแทนภายในส่วนของผู้ถือหุ้น (Equity IRR )อยู่ที่ 9.75%ตลอดอายุโครงการ 30 ปี

             นอกจากนี้ ครม. ยังเห็นชอบให้โครงการได้รับการส่งเสริมจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) พร้อมกำหนดให้โครงการร่วมทุนด้านคมนาคมระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) ทุกโครงการ รวมถึงการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินต้องใช้ระบบตั๋วร่วม เพื่อผลักดันให้ระบบตั๋วร่วมประสบความสำเร็จ

                ขณะเดียวกัน ให้เพิ่มบุคคลที่สาม (Third Party)เข้ามาทำหน้าที่ในการตรวจสอบรายได้ รายรับและรายจ่ายของการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินทั้งหมดเพื่อความโปร่งใส ซึ่งการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะต้องแจ้งให้กับBEMรับทราบก่อนลงนามในสัญญาและอาจพิจารณากำหนดไว้ในร่างสัญญาด้วย

              นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โครงการนี้มีรูปแบบดำเนินการแบบ PPP Net Cost คือ เอกชนเป็นผู้ลงทุนทั้งหมด โดยรัฐไม่มีการการเงินอุดหนุนโครงการและเอกชนต้องเป็นผู้รับความเสี่ยงทั้งหมดเอง ซึ่งประชาชนจะได้ประโยชน์มากที่สุด เพราะอัตราค่าโดยสารเท่าเดิม แต่เดินทางได้ไกลกว่าเดิม รวมทั้งยังทำให้การเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินต่อเนื่องตลอดทั้งสาย และมีความปลอดภัยมากกว่าในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เพราะการมีผู้เดินรถรายเดียวจะบริหารจัดการได้ดีกว่ามีผู้เดินรถหลายราย

               นอกจากนี้ จะสามารถเปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำส่วนต่อขยายบางส่วนได้ก่อน คือ ช่วงหัวลำโพง-หลักสอง จะเปิดให้บริการในปลายปี2562 แต่การเดินรถทั้งโครงการจะเปิดให้บริการต้นปี 2563 คาดว่าจะลงนามสัญญาจ้างได้หลังชี้แจ้งเงื่อนไขเพิ่มเติมให้กับBEM และต้องผ่านการตรวจสอบจากบุคคลที่สามแล้ว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ