เอ็นฟอร์ซ” มั่นใจตลาดไอที ซิเคียวริตี้ไทยยังโตต่อเนื่อง

นายนักรบ เนียมนามธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว จำกัด ผู้จัดจำหน่ายระบบไอที ซิเคียวริตี้ ครบวงจรในไทย กล่าวว่า ตลาดระบบรักษาความปลอดภัยในไทยยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความต้องการในกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ โดยเฉพาะธนาคาร สถาบันการเงิน ที่อยู่ระหว่างการอัพเกรดระบบรักษาความปลอดภัยโดยเฉพาะในการทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ และโมบาย แบงกิ้ง หรือกลุ่มฟินเทค กลุ่มสตาร์อัพต่างๆ รวมถึงการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในหน่วยงานราชการ และองค์กรธุรกิจที่ต้องปรับเปลี่ยนระบบมีความแข็งแกร่ง และปลอดภัยจากบรรดาภัยคุกคาม

โดยปีนี้ื คาดว่า ภัยคุกคามที่น่าจับตามอง เช่น การโจมตีลักษณะ “ดีดอส แอทแทค” ในกลุ่มอุปกรณ์อินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ ไอพี คาเมร่า การ์ทเนอร์ประเมินว่า ความเสียหายจากการถูกโจมตีด้วย ดีดอส แอทแทค จะมีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 434 ล้านบาทในปีนี้ หรือเติบโตขึ้น 25% ตามมาด้วย “แรนซัมแวร์” หรือซอฟต์แวร์เรียกค่าไถ่ ที่มีพัฒนาการสูงขึ้น คาดว่าจะคุกคามเพิ่มขึ้น 25% ปีนี้ นอกจากนี้ ยังมีแฮกเกอร์ ฟิชชิ่ง รวมถึงบริการคอนเทนท์บนคลาวด์ ที่จะมีความเสี่ยงต่อภัยคุกคามมากขึ้น 

“ปีนี้ต้องจับตาที่กลุ่มธนาคาร สถาบันการเงินในด้านการทำธุรกรรมออนไลน์ ที่ต้องหันมาปรับปรุงระบบป้องกันให้ดีขึ้น และเชื่อว่าระบบโอทีพี (OTP) ที่สถาบันการเงินใช้เพื่อรักษาความปลอดภัยทุกครั้งที่มีการทำธุรกรรมจะหายไปในไม่ช้า และจะมีเทคโนโลยีใหม่เข้ามาแทนที่” 

นายนักรบ กล่าวว่า ตลาดไอที ซิเคียวริตี้ในไทยมีการเติบโตต่อปีราว 10-12% หรือมีมูลค่าราว 3,500 ล้านบาท ขณะที่ตลาดใหญ่ยังเป็นระบบไฟร์วอลล์ มากกว่า 30% รองลงมาเป็น เอ็นด์พ้อยต์ และระบบบริหารจัดการซิเคียวริตี้บนคลาวด์

สำหรับกลยุทธ์ปีนี้ วางแผนขยายตลาดและเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ด้านไอที ซีเคียวริตี้ให้ครอบคลุมความต้องการทุกภาคส่วน และมีทีมซัพพอร์ตที่มีความเชี่ยวชาญ เข้าช่วยเหลือหรือแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง เอ็นฟอร์ซตั้งเป้าเติบโตในปี 2560 ที่ 15% โดยเติบโตจากปี 2559 ที่มีรายได้ 513 ล้านบาท 

อย่างไรก็ตาม เอ็นฟอร์ซ มีแผนดันบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ในไทยภายใน 3 ปีด้วยรายได้ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 30% 

“ปีนี้จะเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็นสุดยอดเทคโนโลยีที่มีผู้ใช้ทั่วโลก เช่น SOLUS การยืนยันตัวตนแบบ Multi Factor Authentication โดยข้อมูลทางไบโอเมทริกซ์ รวมความสามารถเทคโนโลยี Eyeprint และ PINPad  เทคโนโลยี Menlo Security ป้องกันโดยสร้างคลาวด์ขึ้นมาเพื่อกักมัลแวร์ รวมถึงดาต้า ล็อกเกอร์รักษาความปลอดภัยข้อมูลด้วยการเข้ารหัส ตั้งเป้าเจาะกลุ่ม ทหาร ตำรวจ ตลอดจนผู้บริหารระดับสูงที่มีข้อมูลสำคัญต้องเก็บรักษา”

สำหรับแนวโน้มผลิตภัณฑ์ไอที ซีเคียวริตี้ที่มาแรงในปี 2560 นั้น จะเป็นผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยในศูนย์ข้อมูล ตอบโจทย์ดาต้า เซ็นเตอร์ หรือองค์กรธุรกิจที่ใช้งานในระบบคลาวด์ ทั้งคลาวด์ส่วนตัว และคลาวด์สาธารณะ ที่มียอดผู้ใช้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

นายนักรบ กล่าวว่า ปีนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนในตลาดซอฟต์แวร์ในการปกป้องเครื่องคอมพิวเตอร์ขององค์กร หรือเอ็นด์พ้อยต์ ซิเคียวริตี้ หลังไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมากนักในช่วงระยะเวลา 5-6 ปีที่ผ่านมา มีผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มขึ้นจากเดิมมาก ป้องกันมัลแวร์ชนิดใหม่ๆได้ ทั้งตลาดยังมีการแข่งขันค่อนข้างสูง เพราะมีผู้เล่นไม่ต่ำกว่า 20 ราย เนื่องจากทุกอุปกรณ์ไม่ว่าจะโมบาย พีซี และโน้ตบุ๊ก ต้องมีระบบความปลอดภัยระดับเอนด์พอยต์