พาณิชย์ใช้ตลาดไทรับสถานการณ์ผัก-ผลไม้ทะลัก

 นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังตรวจสอบสถานการณ์ผัก-ผลไม้ที่ตลาดไท ว่าแม้เริ่มเข้าช่วงหน้าร้อน แต่ราคาพืชผักยังทรงตัวเป็นส่วนใหญ่  เช่น ผักกะหล่ำ ราคา 5-10 บาท/กก. ผักคะน้า 10-20 บาท/กก. ถั่วฝักยาว 20-25 บาท/กก. ทั้งนี้ ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้อีก หากบางพื้นที่เจอฝนฤดูร้อนหรืออากาศร้อนจัด จนกระทบต่อผลผลิตลดลง ส่วนผลไม้ที่เริ่มออกในหน้าร้อน เช่น มะยงชิดและมะปรางหวาน  จำหน่ายในราคา 70-120 บาท/กก.

ต่อจากนี้ก็จะมีผลไม้ภาคตะวันออกผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน ได้แก่ ทุเรียน เงาะ และมังคุด ซึ่งประเมินว่าผลผลิตจะเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนมาก โดยทุเรียนผลผลิตน่าจะเพิ่มอีก 39% และเงาะ เพิ่มอีก 50 % จึงได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน (คน.) ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อดูแลความสมดุลของตลาด อย่าให้ราคาสูงเกินจริง หรือตกต่ำจนกระทบผู้ปลูก

นางอภิรดีกล่าวต่อว่า ได้หารือกับผู้บริหารบริษัท ไทย แอ็กโกร เอ็กซเซนจ์ จำกัด (ตลาดไท)  เพื่อสำรวจพื้นที่จัดตั้งตลาดกลางข้าวสารตามนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการให้ชาวนามีพื้นที่ขายข้าวถึงผู้ค้าและผู้บริโภคโดยตรง  เป้าหมายต้องการแก้ปัญหาข้าวล้นตลาดและราคาตกต่ำในระยะยาว รวมถึงผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าข้าวของอาเซียน โดยบริษัท ไทย แอ็กโกร เอ็กซเซนจ์ เสนอใช้พื้นที่ 40 ไร่ ในการจัดตั้งเป็นตลาดกลางข้าวสาร คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในปีนี้

นายวรานนท์ คงปฏิมากร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท ไทย แอ็กโกร เอ็กซเซนจ์ (ตลาดไท) กล่าวว่า ตลาดไทเป็นศูนย์กลางสินค้าเกษตรระดับประเทศ และมีข้าวสารซื้อขายกว่า 400 ตันต่อวัน เชื่อว่าจากศักยภาพของผู้ประกอบการและการสนับสนุนจากกระทรวงพาณิชย์ จะผลักดันให้ สหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน โรงสีและผู้ส่งออก เข้ามามีส่วนในการจัดตั้งตลาดกลางข้าวสาร และบริษัทพร้อมให้การสนับสนุนด้านสถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวก ตั้งแต่พื้นที่การค้า ลานจอดรถบรรทุกและตู้เก็บสินค้า