ข่าว

5พืชเกษตรชี้ทิศทางเศรษฐกิจภูมิภาค

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์ ช่วยกันคิด ช่วยกันคุย โดย...ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี

 

            พืชเศรษฐกิจสำคัญ 5 อันดับแรก คือ ข้าว ยางพารา อ้อยโรงงาน มันสำปะหลัง และปาล์มน้ำมัน พบว่า ปี 2560 มีมูลค่ารวมกว่า 7.1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.5 หมื่นล้านบาท โดยมูลค่าผลผลิตที่เกษตรกรได้รับเพิ่มขึ้นมาจากราคายางพาราและอ้อยที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการและราคาตลาดโลกที่สูงขึ้นต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา 

            ด้านข้าว ซึ่งถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ คาดว่าราคาจะอ่อนตัวจากลงอีกเล็กน้อย เนื่องจากปี 2560 ปริมาณผลผลิตข้าวนาปรังจะเพิ่มขึ้น ขณะที่สต็อกของรัฐบาลยังคงกดดันราคาข้าวในปีนี้ ส่วนมันสำปะหลังราคาชะลอต่อเนื่องในปีนี้ โดยคาดว่าราคามันสดเฉลี่ยทั้งปีจะชะลอตัวลงร้อยละ 18 เนื่องจากความต้องการผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของประเทศจีนที่เป็นตลาดส่งออกสำคัญลดลง ทำให้มูลค่าผลผลิตมันสดที่เกษตรกรชาวไร่มัน ขายได้ลดลง 1.2 หมื่นล้านบาท

            เม็ดเงินจากมูลค่าผลผลิตที่สูงขึ้น ทำให้เกษตรกรซึ่งเป็นผู้ผลิตและบริโภคกลุ่มสำคัญของเศรษฐกิจภูมิภาค มีกำลังซื้อสูงขึ้นโดยอัตโนมัติ ดังนั้น ภาคใต้ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกยางพาราที่สำคัญของประเทศ (ผลผลิตยางพารากว่าร้อยละ 70 มาจากภาคใต้) จะมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน รวมถึงยังได้ผลบวกจากปาล์มน้ำมันที่มีราคาปรับตัวสูงขึ้นเป็นแรงหนุนเศรษฐกิจในพื้นที่อีกด้วยด้วย 

            ดังนั้น เศรษฐกิจภาคใต้ปีนี้น่าจะฟื้นตัวจากภาวะน้ำท่วมรวดเร็วและดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาอย่างชัดเจน โดยเฉพาะพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี สงขลา นครศรีธรรมราช ตรัง ซึ่งเป็นจังหวัดพื้นที่ปลูกยางจำนวนมาก ด้านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกข้าว อ้อย มันสำปะหลัง แม้ว่ามูลค่าผลผลิตอ้อยจะเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น แต่ข้าวและมันสำปะหลัง ราคายังคงฉุดรายได้เกษตรกรในปีนี้ ทำให้กำลังซื้อของเกษตรกรในภาพรวมทั้ง 3 ภาคไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก เศรษฐกิจของจังหวัดที่คาดว่าจะมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นเนื่องจากเป็นพื้นที่ปลูกอ้อยที่สำคัญ ได้แก่ กำแพงเพชร นครสวรรค์ อุดรธานี นครราชสีมา กาญจนบุรี

            กำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นของเกษตรกรในพื้นที่ข้างต้นจะส่งผลดีต่อธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เช่น ธุรกิจค้าปุ๋ยและเคมีเกษตร เครื่องจักรกลการเกษตร ซึ่งเป็นปัจจัยการผลิต อีกด้านหนึ่งเกษตรกรจะมีกำลังจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อธุรกิจค้าปลีก ค้าส่งสินค้าอุปโภค บริโภค วัสดุก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น โดยหากทิศทางของราคาและปริมาณผลผลิตยังดีต่อเนื่องในระยะยาว จะทำให้แนวโน้มการซื้อสินค้าคงทน หรือสินค้าราคาสูง เช่น จักรยานยนต์ รถยนต์ มีแนวโน้มดีขึ้นในระยะต่อไป เนื่องจากเกษตรกรมีความมั่นใจในรายได้สูงขึ้น

            ภาครัฐควรมีนโยบายดูแลราคาข้าวและมันสำปะหลังระยะสั้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร ส่วนยางพารา อ้อยและปาล์ม ซึ่งราคาอยู่ในระดับค่อนข้างดีในปีนี้ ควรส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุนอย่างจริงจัง เช่น นโยบายเกษตรแปลงใหญ่ รวมถึงส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตเกษตร ซึ่งจะส่งผลดีในระยะยาวต่อรายได้ของเกษตรกรในพื้นที่ และช่วยหนุนเศรษฐกิจภูมิภาคให้เติบโตได้ในระยะยาว

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ