กทพ.คัด3เส้นทาง-แปลงขายหน่วยกลางปีนี้
“สมคิด” ย้ำการลงทุนภาครัฐ-รัฐวิสาหกิจ เป็นหลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปี 60 แจงคืบหน้า “กองทุนไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ ฟันด์” เตรียมประเดิมระดมทุนลอตแรก 4-5 หมื่นล้าน กทพ.คัด 3 เส้นทาง แปลงเป็นหน่วยลงทุน คาดยื่นไฟลิ่งต่อ ก.ล.ต. เดือนมีนาคมนี้ตามแผนเดิม ก่อนเปิดขายประชาชนทั่วไปกลางปีนี้
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในงานสัมมนาและมอบนโยบายแก่ผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจ ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในปีนี้ จะดีกว่าปี 2559 ที่ขยายตัว 3.2% และมากกว่าปี 2558 ที่ขยายตัว 2.8% โดยตัวขับเคลื่อนหลักสำคัญของเศรษฐกิจในปีนี้ คือการลงทุนของรัฐวิสาหกิจในโครงการต่างๆ และโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ ซึ่งประเทศไทยถือว่าได้ผ่านจุดไม่ดีมาแล้ว และมีแนวโน้มที่ดีขึ้น สะท้อนได้จากดัชนีความเชื่อมั่นจากภาคอุตสาหกรรม และหอการค้าไทย
ทั้งนี้ ขอให้มีการเร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยจัดทำแผนระยะสั้นและระยะยาว และให้นำกรอบยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 นโยบายไทยแลนด์ 4.0 มาจัดทำแผน และสนับสนุนให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในปีนี้รัฐบาลได้วางเป้าหมายให้การลงทุนภาครัฐ ทั้งการลงทุนของหน่วยงานรัฐ และรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีมูลค่ามหาศาล เป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการลงทุนของภาคเอกชนที่จะเริ่มฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจในปีนี้ได้เป็นอย่างดี
“ขนาดของรัฐวิสาหกิจไทยใหญ่มาก แต่ละแห่งมีหน้าที่ของตัวเอง ดังนั้นเมื่อมารวมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประสานความร่วมมือกันจะทำให้มีพลังที่ยิ่งใหญ่มาก โดยเฉพาะในด้านการลงทุนที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ และยืนยันว่าเรื่องเงินลงทุนของรัฐวิสาหกิจไม่มีปัญหา ยังมีความสามารถในการลงทุนอีกมาก” นายอภิศักดิ์ กล่าว
สำหรับความคืบหน้าของการจัดตั้งกองทุนไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ ฟันด์ วงเงิน 1 แสนล้านบาทนั้น คาดว่าจะสามารถเปิดขายกองทุนครั้งแรกได้ในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2560 ซึ่งจะเป็นการระดมทุนก้อนแรกประมาณ 4-5 หมื่นล้านบาท เบื้องต้น โครงการที่จะนำมาแปลงเป็นหน่วยลงทุน คือ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) โดยทาง กทพ.จะพิจารณาเลือกเส้นทางเบื้องต้น 3 เส้นทาง ประกอบด้วย 1.เอกมัย-รามอินทรา 2.ทางพิเศษบูรพาวิถี และ 3.ดาวคะนอง ต่อวงแหวนรอบนอก
ส่วนรายอื่นๆ เช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สามารถนำโรงไฟฟ้าหรือสายส่งมาเข้ากองทุนได้เช่นเดียวกัน เพื่อระดมเงินไปลงทุนในโครงการต่างๆ
"เบื้องต้นจะมีโครงการของ กทพ. เข้ากองทุนก่อน โดยจะเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป ส่วนผลตอบแทนยังไม่ได้ระบุว่าจะต้องได้เท่าไหร่ แต่ที่คุยกันก่อนหน้านี้ คือผลตอบแทนประมาณ 7-8%” นายอภิศักดิ์ กล่าว
ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า เมื่อ กทพ.คัดเลือกเส้นทางได้แล้ว จะส่งให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาก่อนส่งให้คณะกรรมการขับเคลื่อนที่มีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน จากนั้นเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ก่อนยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ราวเดือนมีนาคมนี้ ตามแผนเดิม และเสนอขายช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2560
สำหรับเงินระดมทุนที่ได้ คาดว่าจะนำไปสร้างโครงการอื่นๆ ของ กทพ.ต่อ โดยคาดว่าจะให้ ครม.อนุมัติเร็วๆ นี้ คือ เส้นทางพระราม 3-ดาวคะนอง และเส้นทางเกษตรนวมินทร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง