ป่วยกาย เงินต้องไม่ป่วย

 

           แม้เทคโนโลยีการแพทย์จะเจริญรุดหน้าไปแค่ไหนก็ตาม สัจธรรมก็คือสัจธรรม ด้วยไม่มีใครในโลกที่หนีพ้นความเจ็บป่วยไปได้

           ยิ่งหากเป็นโรคใหญ่ๆ ที่มีอาการเรื้อรัง หรือเป็นโรคที่สุ่มเสี่ยงต่อการคร่าชีวิต ก็ยิ่งจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อการรักษา

           ในเรื่องๆ นี้ ผมเคยนั่งคุยกับเพื่อนหลายๆ คน ก็พอทราบว่าบางโรคสนนราคาค่ารักษาไปถึงหลักล้าน หรือบานปลายไปหลักหลายล้านก็มี

           การเตรียมตัว เตรียมเงินเพื่อการเจ็บป่วย โดยเฉพาะของพ่อแม่ คนแก่ คนชรา ในครอบครัวจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างเลี่ยงไม่ได้

           ส่วนตัว ผมอยากแนะนำให้มีแผนการรับมือให้พร้อม ค่อยๆ ไล่เรียงนะครับ

           อย่างแรก ควรต้องเก็บเงินให้เป็นกิจจะลักษณะ และควรต้องแยกจากเงินเก็บเพื่อการอื่นๆ เป็นการเฉพาะเจาะจง เพราะเงินส่วนนี้ ถึงคราวต้องใช้แน่ๆ

           ทั้งนี้ จะเลือกเก็บเป็นส่วนตัว ฝากเข้าแบงก์ หรือจะทำเป็นกองกลาง ที่คนในครอบครัวทุกคน ร่วมกันลงขันรับผิดชอบก็ได้

           ผมเชื่อว่าใครเก็บเงินก้อนนี้ได้เร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้เปรียบ เพราะเกิดความฉุกเฉินขึ้นมา จะได้ไม่ต้องเป็นกังวล และต้องถึงกับกู้หนี้ยืมสิน เสียดอกเบี้ยที่ไม่ควรจะเสีย

           ต่อมา ผมอยากให้มีสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่อง ที่พร้อมเปลี่ยนเป็นเงินสดได้เร็ว เช่น ทองคำ เพราะกรณีที่เงินสดไม่พอ อย่างน้อยก็สามารถเอาทรัพย์ที่มีไปขาย เพื่อรักษาซึ่งน่าจะเป็นทางออกที่ดี

           ใครที่มีบัตรเครดิต ที่มีวงเงินค่อนข้างสูง แนะนำให้มีวินัยการเงินให้มาก ไม่ใช้เกินตัว ไม่ใช้เกินจำเป็น และรักษาประวัติการชำระให้ตรงเวลาเสมอ

           เพราะหากเกิดต้องใช้เงินในการรักษาพยาบาลขึ้นมา วงเงินบัตรเครดิตก็เป็นอีกทางออกที่ช่วยได้ และเราสามารถทยอยผ่อนชำระ ดีกว่าไปกู้เงินนอกระบบที่แพงมหาโหด

           อีกหนึ่งวิธีที่สำคัญที่สุด ก็คือการซื้อแผนประกันสุขภาพ

           หลายๆ คนมีแผนประกันของบริษัท หรือของราชการที่ตัวเองทำงาน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีตั้งต้น แต่การทำความเข้าใจศึกษาประกันสุขภาพเพิ่มเติม ก็เป็นเรื่องที่ควรให้ความสนใจไม่น้อย

           ดีที่สุด ต้องหมั่นประเมินความเจ็บป่วย สุขภาพของตนเองขณะปัจจุบัน รวมถึงต้องศึกษาค่าใช้จ่ายของโรงพยาบาลต่างๆ ในการรักษา จะลองคิดเผื่อไปถึงเงินชดเชยที่ได้จากการพักรักษาก็จะดีใหญ่ เพื่อจะนำมาคำนวณทุนประกันที่ตัวเองพึงมี และเบี้ยประกันที่พึงต้องจ่ายในแต่ละปี

           อย่างไรก็ตาม ผมไม่อยากให้ผลีผลาม คิดไม่รอบคอบ แล้วทำประกัน เพราะการอ่านไม่ละเอียด ไม่ศึกษา ก็อาจทำให้เราไม่เข้าใจ และพลาดท่า ไม่ได้รับเงินอย่างที่ควรได้รับ

           ค่อยๆ ทำความเข้าใจ อ่านข้อมูล ซักจากตัวแทนขายให้มากที่สุด เพื่อให้ได้รับข้อมูลอย่างตรงไปตรงมาที่เป็นประโยชน์กับตัวเอง

           จากนั้นจึงตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุด ที่น่าจะช่วยรับมือกับความเจ็บป่วยในอนาคตได้

           ทิ้งท้ายสักนิดครับ แผนรับมือความเจ็บป่วยที่ดีที่สุดอีกทาง คือการรักษาสุขภาพที่ดี ด้วยการรับประทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะ ครบห้าหมู่ และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ

           หากทำอย่างนี้ได้ ความเสี่ยงก็น้อยลง และจะยืดอายุให้ยืนยาว ช่วยให้เราเก็บเงินเก็บทอง เป็นเสบียงเลี้ยงตัวให้นานขึ้น

           ดูแลสุขภาพกันนะครับ สู้ๆ