ข่าว

หลักสูตรพิเศษ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์ ขมน้ำตาล หวานบอระเพ็ด โดย...พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ

 

         ประเทศไทยเป็นประเทศที่ต้องมีอะไรพิเศษแทรกอยู่ในทุกวงการ ซึ่งไม่เว้นแม้แต่การศึกษาในหลักสูตรพิเศษต่างๆ ซึ่งในอดีตหาได้ยากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิน แต่ปัจจุบันนี้กลับกลายเป็นว่าสถานศึกษาใด หน่วยงานหรือองค์กรใด หากไม่มีการก่อตั้งหลักสูตรพิเศษขึ้นมาแล้ว เห็นทีจะต้องอับอายหรือด้อยกว่าหน่วยงานหรือองค์กรอื่นๆ

         หลักสูตรพิเศษตามมหาวิทยาลัยต่างๆ เบ่งบานราวกับดอกเห็ดในฤดูฝน เมื่อครั้งที่รัฐธรรมนูญของไทยกำหนดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องมีความรู้ขั้นต่ำระดับปริญญาตรี ทำให้นักการเมืองต้องหาทาง “เพิ่มระดับความรู้” กันจ้าละหวั่น โดยมีอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยของรัฐหลายต่อหลายแห่งที่มีความสนิทสนมกันกับนักการเมืองระดับหัวแถว คิดเปิดการสอนระดับปริญญาตรีในแบบ “หลักสูตรพิเศษ” ขึ้นมา และได้รับความนิยมเป็นอย่างดียิ่งจนมีการเปิดสอนกันตามอย่างมากขึ้น

         หลักสูตรพิเศษในระยะแรกเป็นการเปิดด้วยเหตุผลทางการตลาดของสถานศึกษาระดับอุดมศึกษามากกว่า เป็นหลักสูตรเฉพาะสายงานอาชีพเพื่อเพิ่มพูนความรู้ด้านวิชาการอย่างจริงจังโดยตรงต่อบุคลากรในอาชีพนั้น ซึ่งไม่มีผลเสียต่อสังคม เพราะสถานศึกษามักจะนำเสนอต่อองค์กรเอกชนขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มความรู้ให้พนักงานในองค์กรนั้นๆ เป็นการเฉพาะ เมื่อจบหลักสูตรแล้วก็ไม่สามารถนำความรู้ไปเทียบชั้นทางวิชาการใดๆ ได้ 

         หลักสูตรพิเศษระยะแรกเริ่มเช่นนี้เติบโตเคียงคู่กันไปกับการเปิดหลักสูตรประเภท X-MBA จบหลักสูตรแล้วผู้เข้าอบรมก็ได้เพียงแค่ประกาศนียบัตรให้รู้ว่าผ่านการอบรมมาแล้ว สถานศึกษาและคณะอาจารย์ก็ได้เงินกลับไปใช้จ่ายส่วนตัวและบำรุงสถานศึกษา อาจารย์ผู้สอนยังได้นำเอาความรู้ในตำราออกมาพบปะกับคนที่อยู่ในแวดวงอาชีพและทำงานจริงๆ อย่างผู้มีประสบการณ์

         หลักสูตรพิเศษอีกประเภทหนึ่งที่ระยะหลังนี้ได้รับความนิยมมากยิ่งๆ ขึ้น เป็นหลักสูตรพิเศษที่เปิดขึ้นโดยหน่วยงานของรัฐทั้งหลาย โดยเจตนารมณ์เบื้องต้นของหลักสูตรเหล่านี้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานได้เข้ามาเรียนรู้การทำงานข้ามหน่วยงานกัน ได้มาแลกเปลี่ยนความรู้และวิธีการต่างๆ ในการทำงานของหน่วยงานที่แตกต่างกันออกไป แต่หลักสูตรประเภทนี้ระยะต่อมาจึงแตกหน่อขยายออกมารับบุคคลภายนอกเข้าไปร่วมกับข้าราชการด้วย โดยมีข้ออ้างว่าเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้ ระหว่างเอกชนและหน่วยงานราชการให้เป็นไปในทางที่สอดคล้องกัน

         ท้ายที่สุดเอาเข้าจริงๆ แล้วหลักสูตรพิเศษประเภทหลังสุดนี้ คนที่เข้าร่วมในฝ่ายเอกชนมักจะมองว่า เข้าไปร่วมเพียงเพื่อต้องการสร้างสายสัมพันธ์หรือมีคอนเนกชั่นกับข้าราชการ ซึ่งหากมองในแง่มุมที่เป็นด้านลบ จะพบว่าหลักสูตรพิเศษของบางแห่งบางองค์กร กลายเป็นแหล่งเริ่มต้นเพาะเชื้อคอร์รัปชั่นขึ้นมาได้ หากทั้งสองฝ่ายที่เข้าร่วมอบรมด้วยกันมีความสนิทสนมกันจนถึงขั้นที่แลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันและกันทั้งทางตรงและทางอ้อมขึ้นมา 

         ดังนั้น การเปิดหลักสูตรพิเศษใดๆ ทั้งหลายขึ้นมา ก็ต้องหาทางป้องกันไม่ให้เกิดการร่วมมือกันกระทำผิดของผู้ที่ร่วมอยู่ด้วยกันในหลักสูตรพิเศษนั้นๆ ด้วย เพราะประเทศไทยเรามักจะมีข้อครหาเรื่องรุ่นของชั้นเรียนในระดับมัธยม มหาวิทยาลัย และสถานศึกษาต่างๆ มาตลอดเวลา

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ