ข่าว

เมื่อทรัมป์ทวิตเตือน‘โตโยต้า’

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์ ช่วยกันคิด ช่วยกันคุย โดย...ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (อีไอซี)

 

          โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ทวิตโจมตีการลงทุนโรงงานประกอบรถยนต์ใหม่ของโตโยต้า ในเม็กซิโก เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2017 โดยมีใจความระบุถึงการคัดค้านการตั้งโรงงานดังกล่าวและให้มาจัดตั้งในสหรัฐแทน ไม่เช่นนั้นจะโดนเพิ่มภาษีนำเข้า ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการพาดพิงถึงนักลงทุนต่างชาติ หลังจากที่ได้มีทวิตในลักษณะเดียวกันถึงฟอร์ด และจีเอ็ม 

          จนทำให้ฟอร์ดประกาศยกเลิกโปรเจกท์ในเม็กซิโกและเตรียมจัดตั้งโรงงานในสหรัฐแทนในเวลาต่อมา นอกจากนั้น จากข้อมูลการสำรวจของหนังสือพิมพ์นิคเคอิ กับนักธุรกิจจีน เกาหลีใต้และญี่ปุ่น ช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา พบว่ามากกว่า 40% มีความกังวลต่อนโยบายการค้าของทรัมป์ และเหตุการณ์ล่าสุดนี้น่าจะเพิ่มความวิตกกังวลแก่นักลงทุนมากขึ้น

          แผนการผลิตรถยนต์ทั่วโลกอาจจะเปลี่ยนไป หากนโยบายย้ายฐานการผลิตมาที่สหรัฐเกิดขึ้นจริง ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ผู้ผลิตวางแผนผลิตรถยนต์รุ่นหนึ่งๆ จากโรงงานในไม่กี่ประเทศเพื่อส่งออกไปทั่วโลก และใช้ชิ้นส่วนร่วมกันระหว่างรุ่นต่างๆ เพื่อลดต้นทุนการผลิตจากการผลิตปริมาณมาก ทำให้มีผู้ผลิตชิ้นส่วนรายใหญ่ไม่กี่รายที่จะผลิตชิ้นส่วนในปริมาณมากตามไปด้วย 

          แต่นโยบายของทรัมป์ จะเน้นให้ลดการนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วนจากประเทศอื่น หากค่ายรถยนต์ใหญ่ๆ อย่างโตโยต้า ต้องดำเนินตามนโยบายดังกล่าวด้วยแล้ว จะส่งผลให้มีการชะลอและปรับเปลี่ยนแผนการลงทุนในประเทศอื่นรวมถึงไทย ซึ่งเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ โดยเฉพาะโครงการอีโคคาร์ที่ปัจจุบันมีการพึ่งพาการส่งออกอย่างมากราว 3 แสนคันต่อปี ซึ่งมากกว่ายอดขายในประเทศกว่าสามเท่า ในจำนวนนี้มีรถยนต์อีโคคาร์ที่ส่งไปสหรัฐโดยตรงถึง 3.2 หมื่นคัน

          อีไอซีมองอาจเป็นผลดีต่อผู้ผลิตชิ้นส่วนบ้างในระยะสั้น แต่ต้องเตรียมปรับตัว ปัจจุบันไทยมีการส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์และอุปกรณ์ตกแต่งไม่รวมยางล้อไปสหรัฐ มีมูลค่าสูงสุด คิดเป็น 13% ของทั้งหมด โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องยนต์สันดาปและสายไฟ และหากรวมยางล้อแล้วจะมีสัดส่วนถึง 18% การเพิ่มภาษีนำเข้าจากเม็กซิโกอาจส่งผลให้การนำเข้าชิ้นส่วนจากไทยเพิ่มขึ้น คล้ายกับกรณีที่ยางล้อจีนโดนมาตรการต่อต้านการทุ่มตลาดซึ่งทำให้มีการนำเข้าจากไทยมากขึ้น แต่หากมีการจัดตั้งโรงงานใหม่ที่สหรัฐ ในภายหลังปริมาณที่เพิ่มมานี้ก็จะหายไป รวมถึงปริมาณการผลิตที่จะหายไปจากจำนวนรถยนต์ที่ผลิตเพื่อส่งออกไปสหรัฐด้วย

          อีไอซีแนะผู้ผลิตชิ้นส่วนเร่งพัฒนาการผลิตชิ้นส่วน ODM และ REM หรือขยายธุรกิจด้านบริการที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับมือความเสี่ยงจากการสูญเสียตลาดส่งออก ผู้ผลิตชิ้นส่วนควรลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อออกแบบชิ้นส่วนได้ด้วยตัวเอง (ODM) ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับผู้ผลิตชิ้นส่วนต่างชาติ เพราะค่ายรถยนต์จะยังมีความจำเป็นในการใช้ชิ้นส่วนนั้นๆ อยู่แม้ว่าจะมีการย้ายฐานการผลิตก็ตาม ในขณะที่ผู้ผลิตชิ้นส่วนขนาดเล็กกว่าอาจเน้นการพัฒนาด้านชิ้นส่วนทดแทนและอุปกรณ์ตกแต่ง (REM) สำหรับตลาดภายในประเทศหรือในภูมิภาค รวมถึงธุรกิจด้านบริการอย่างการซ่อมบำรุง

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ