ผู้ว่าธปท.หวังจีดีพีปี60มีโอกาสโตมากกว่า3.2%

         นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปี 2560 มีโอกาสขยายตัวมากกว่า 3.2% แม้ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคาดการณ์ไว้ที่ระดับดังกล่าว โดยปัจจัยบวกมาจากเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีกว่าที่คาด ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยด้วย แต่ยังต้องติดตามนโยบายทางการเงินของประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ต่อไป นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนโครงสร้างของภาครัฐหากดำเนินงานได้เร็วกว่าคาด ก็จะส่งผลดีต่อจีดีพีเช่นเดียวกัน ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปีนี้ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง และราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำนั้น คาดว่าปีหน้าจะดีขึ้น การท่องเที่ยวที่ปีนี้มีผลกระทบในระยะสั้นจากปัจจัยหลายเรื่องที่ชะลอตัว และหากปีหน้าฟื้นตัวได้เร็วก็จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทย

         อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทยที่ต้องติดตาม คือ การกีดกันทางการค้าของสหรัฐ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย และประเทศคู่ค้า รวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่ปีหน้าจะมีการเลือกตั้งในหลายประเทศสำคัญ และมีกระบวนการ Brexit ที่อังกฤษจะออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่มั่นใจในการลงทุน ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย  

         “ปัจจัยส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศมากกว่าในประเทศ ซึ่งต้องติดตามนโยบายการค้า การลงทุนของทรัมป์อย่างใกล้ชิด แต่หากดูในประเทศจากการที่รัฐบาลต้องการเห็นไทยเติบโตเต็มศักยภาพใน1-2ปีข้างหน้าก็เป็นไปได้ที่จีดีพีไทยจะขยายตัวสูงถึง4-5%”นายวิรไท กล่าว

         ด้านนายเมธี สุภาพงษ์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธปท. กล่าวว่า การอ่อนค่าของเงินบาทในช่วงนี้เป็นการเคลื่อนไหวโดยปกติ และไม่พบการเก็งกำไรสอดคล้องกับพื้นฐานเศรษฐกิจไทยด้านต่างประเทศที่ยังแข็งแกร่ง โดยเฉพาะดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลสูงเงินทุนสำรองระหว่างประเทศสูง และการพึ่งพาเงินกู้จากต่างประเทศในระดับต่ำนอกจากนี้เงินบาทที่อ่อนค่า แต่หากเทียบกับสกุลเงินประเทศเพื่อนบ้าน ถือว่าแข็งค่ากว่า

         “แบงก์ชาติยังดูแลให้เงินบาทมีเสถียรภาพ โดยเงินบาทที่อ่อนค่าในขณะนี้ส่งผลดีต่อผู้ส่งออกบางธุรกิจ โดยเฉพาะภาคยานยนต์” นายเมธี กล่าว