ข่าว

หนี้เสียเพิ่ม กันสำรองเพิ่ม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์ สวัสดีเศรษฐกิจ โดย...สุรพล โอภาสเสถียร

 

           รายงานข้อมูลข่าวสารจากภาคธนาคารพาณิชย์ ในช่วงเวลานี้ต่างได้ทยอยแจ้งผลประกอบการไตรมาส 3 สิ้นสุดกันยายน 2559 และที่สำคัญคือผลการดำเนินงานในรอบ 9 เดือนในปี 2559 พบว่า

           1. ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ชั้นนำที่เป็นคนให้กู้หลักกับ SME บางแห่งนั้น ยังมีกำไรนะครับ แต่กำไรดังกล่าวนั้นลดลงเมื่อเทียบกับปี 2558 ในช่วงเวลาเดียวกัน ด้วยเหตุผลหลักคือธนาคารต้องการสร้างความมั่นคงจึงมีการตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น เช่น ธนาคารกสิกรไทย มีผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน ปี 2559 รวมงบการเงินของบริษัทย่อยแล้วมีกำไรสุทธิ 29,930 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนประมาณ 12% เหตุผลหลักเกิดจากมีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นเพื่อเตรียมรับความไม่แน่นอนจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว (ผู้เขียนคิดว่าตรงนี้มีความสำคัญในการส่งสัญญาณทางเศรษฐกิจ) แต่ว่าถ้ามาดูที่ผลการดำเนินงานเฉพาะไตรมาส 3 ปี 2559 หรือดูเฉพาะ 3 เดือนตั้งแต่ มิถุนายน-กันยายน 2559 ผลการดำเนินงานของธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 10,856 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี 2558 เท่ากับ 7.3% ซึ่งก็ถือว่าดีทีเดียว

           2. ธนาคารพาณิชย์ขนาดกลาง (ผู้เขียน : ธนาคารลูกครึ่งที่มีต่างชาติถือหุ้นใหญ่) ยังมีกำไรนะครับ แต่กำไรดังกล่าวนั้นลดลงเมื่อเทียบกับปี 2558 ในช่วงเวลาเดียวกัน ด้วยเหตุผลหลักเป็นไปในทำนองเดียวกันกับ ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่คือธนาคารต้องการสร้างความมั่นคงจึงมีการตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น เช่น CIMBThai ระบุในข่าวสารว่าผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคาร สำหรับงวด 9 เดือนปี 2559 มีกำไรสุทธิเกือบ 800 ล้านบาท ลดลงประมาณ 6% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 2558 สาเหตุหลักเกิดจากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นขณะที่กำไรสุทธิเฉพาะในไตรมาส 3 ช่วงสามเดือนพบว่ามีกำไรสุทธิกว่า 430 ล้านบาท เบ็ดเสร็จธนาคารมีหนี้เสียประมาณ 9,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4.2% ของสินเชื่อรวม

           3. ธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็ก ก็เป็นอีกกลุ่มที่มีกำไรสุทธิเติบโตแบบก้าวกระโดดมากกว่าแบงก์ขนาดใหญ่แต่นโยบายก็ไม่แตกต่างกันคือต้องการการสร้างความมั่นคงในระยะยาวจึงมีการตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น ตัวอย่างที่โดดเด่นของกำไรที่ก้าวกระโดด เช่น ธนาคารเกียรตินาคิน มีการรายงานผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2559 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 4,095 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 115% เปรียบเทียบกับงวด 9 เดือนปี 2559 หรือกรณีของ บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป มีผลประกอบการในงวด 9 เดือนปี 2559 มีกำไรอยู่ที่ 3,700 กว่าล้านบาท เพิ่มขึ้น 24%.

           การกันสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มมากขึ้น โดยตัดจากกำไร แล้วแสดงผลกำไรออกมาในระดับนี้ ต้องเรียนว่าเข้าลักษณะระมัดระวังสูง การ์ดต้องไม่ตก ติดตามลูกค้าใกล้ชิดแบบหายใจรดต้นคอ การตามเก็บหนี้ต้องเข้มแข็ง การปล่อยสินเชื่อใหม่ระมัดระวังค่อนข้างมาก การจะขอสินเชื่อ-การอนุมัติสินเชื่อจะไม่ง่ายๆ นะครับท่าน

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ