ลุ้นออมสินโอนเงินผู้มีรายได้น้อยสัปดาห์นี้

               นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารออมสินมีความพร้อมที่จะนำจ่ายเงินเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งมีผู้มีสิทธิ์รับเงินสวัสดิการในรอบนี้ที่ลงทะเบียนกับธนาคารออมสินจำนวน 2.56 ล้านรายแล้ว โดยรอเพียงรายชื่อจากกระทรวงการคลังเท่านั้น เนื่องจากต้องมีการตรวจสอบสิทธิ์เพื่อไม่ให้เกิดรายชื่อซ้ำซ้อนกัน กระทรวงการคลังจึงต้องรวบรวมรายชื่อจากธนาคาร 3 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสิน มาตรวจสอบอย่างละเอียด

               “คาดว่าภายในสัปดาห์นี้ธนาคารออมสินจะสามารถโอนเงินสวัสดิการให้แก่ผู้มีสิทธิ์ 1 ล้านรายแรก ที่เปิดบัญชีกับกับธนาคารไว้แล้ว ส่วนอีกกว่า 1 ล้านราย จะต้องเข้ามาเปิดบัญชีเงินฝากกับออมสินก่อนจึงจะได้รับเงินสวัสดิการ และธนาคารจะทยอยโอนให้ผู้มีสิทธิ์จนครบจำนวนที่มาลงทะเบียนไว้กับธนาคาร” นายชาติชายกล่าว และว่า ผู้ที่ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐกับธนาคารออมสินและยังไม่เปิดบัญชีกับธนาคาร ขอให้มาตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิ์ได้ที่ธนาคารและเปิดบัญชีเงินฝากเพื่อรับเงินสวัสดิการตามสิทธิ์

               นายชาติชายยังกล่าวถึงโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Reverse Mortgage : RM) ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ธนาคารออมสินปล่อยกู้ให้แก่ผู้ที่มีอายุ 60-85 ปี และมีกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยปลอดภาระหนี้ เพื่อต้องการให้ผู้สูงอายุนำบ้านมาค้ำประกันการขอกู้ ด้วยการประเมินมูลค่าหลักทรัพย์ จากนั้นธนาคารจะเฉลี่ยการนำส่งรายได้สำหรับดำรงชีพเป็นรายเดือน ต่อเนื่องไปจนกว่าจะเสียชีวิต ว่า แนวทางดังกล่าวมีข้อท้วงติงและความสงสัยเกี่ยวกับการจ่ายดอกเบี้ยของลูกค้า 

               เนื่องจากที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุมีปัญหาการชำระหนี้ตามหลักบัญชี เนื่องจากการกู้ยืมต้องชำระเงินกับธนาคารเป็นประจำทุกเดือน จึงได้หารือกับกระทรวงการคลังและธปท.ร่วมหาทางออก เมื่อนำส่งยอดสินเชื่อให้แก่ลูกค้าเป็นรายเดือน จะบันทึกภาระดอกเบี้ย เพื่อให้ลูกค้าชำระดอกเบี้ยรายเดือน เช่น ได้รับยอดเงินกู้เฉลี่ยรายเดือน 1 หมื่นบาท จะส่งบิลเก็บดอกเบี้ย 100 บาท เพื่อให้ลูกค้าชำระดอกเบี้ย เมื่อเป็นภาระไม่สูง จึงคาดว่าจะไม่ผิดนัดชำระหรือกลายเป็นลูกหนี้เอ็นพีแอล เมื่อหาทางออกได้แล้ว คาดว่าออมสินจะเปิดให้บริการสินเชื่อดังกล่าวได้ในเร็วๆ นี้ 

               ทั้งนี้ ธนาคารจะปล่อยสินเชื่อสัดส่วนร้อยละ 70 ของมูลค่าบ้าน และหากลูกค้าได้รับเงินสินเชื่อรายเดือนต่อเนื่องจนถึงอายุ 85 ปี แต่ยังไม่เสียชีวิต ธนาคารจะทบทวนการประเมินหลักทรัพย์ใหม่ เนื่องจากเวลาผ่านไปมูลค่าหลักทรัพย์ที่สูงขึ้น จึงทำให้ได้รับยอดสินเชื่อได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังเปิดทางให้ทายาทเข้ามารับภาระผ่อนชำระต่อไปได้ เนื่องจากช่วงแรกบุตรหลานอาจยังไม่มีกำลังดูแลพ่อ แม่ ญาติผู้ใหญ่ แต่เมื่อเวลาผ่านไปทำงานมีรายได้จึงเข้ามารับภาระผ่อนกู้เพื่อขอกรรมสิทธิ์บ้านคืนได้ เบื้องต้นคิดอัตราดอกเบี้ยเอ็มแอลอาร์ลบ 1 หรือ 2% คาดว่าช่วงแรกเตรียมวงเงินสินเชื่อรองรับ 5,000 ล้านบาท เมื่อประเมินจากสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งระบบ 4 ล้านหลัง สินเชื่อ 4 ล้านล้านบาท อาจมีกลุ่มเป้าหมายมาขอสินเชื่อ 4 หมื่นหลังต่อปี

               ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2559 เห็นชอบมาตรการการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อยในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ โดยใช้วงเงินงบประมาณ 12,750 ล้านบาท ซึ่งกำหนดคุณสมบัติต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2559 และเป็นผู้ว่างงานหรือมีรายได้ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปีในปี 2558 โดยมีการตรวจสอบสถานะบุคคลและความถูกต้องของข้อมูลในเบื้องต้นจากกรมสรรพากรและกรมการปกครองแล้ว คาดว่าจะสามารถช่วยผู้มีรายได้น้อยที่ไม่ใช่เกษตรกรจำนวน 5.4 ล้านคน