ข่าว

กองทุนขายหนักกดหุ้นไทยดิ่งกว่า47จุด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หุ้นไทยร่วงหนักกว่า 47 จุด กองทุนทิ้งหนักขายสุทธิกว่า 7.2 พันล้าน กังวลปัจจัยใน-นอกประเทศ “สมคิด”เตือนระมัดระวังการลงทุน ขณะที่ดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุน ต.ค.ทรุด


               ดัชนีหุ้นไทยเปิดตลาดเช้าวันที่ 10 ตุลาคม 2559 ปรับตัวลงอย่างรุนแรง จากการเทขายอย่างหนักของนักลงทุน ดัชนีลดลงไปต่ำสุดที่ระดับ 1540.87 จุด ลดลง 53.47 จุด จากเมื่อครั้งปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม ก่อนที่จะมีแรงรับซื้อกลับเข้ามาบ้าง หนุนให้ดัชนีดีดตัวขึ้นมาเล็กน้อยและปิดตลาดที่ระดับ 1,457.02 จุด ลดลง 47.32 จุด มูลค่าการซื้อขายรวม 74,142.56 ล้านบาท โดยสถาบันขายสุทธิ 7,268.24 ล้านบาท และบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 627.24 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 998.74 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 6,896.83 ล้านบาท

               นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หุ้นไทยปรับลดลงแรงมีสาเหตุจากนักลงทุนกังวลกับสถานการณ์ในระยะสั้น ซึ่งอยากให้มองการลงทุนที่พื้นฐานเศรษฐกิจไทยเป็นหลัก เนื่องจากขณะนี้ถือว่าเศรษฐกิจไทยยังคงมีความแข็งแกร่งและขอให้เชื่อมั่นว่าการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นจะเป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น และจะปรับตัวดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกันนี้อยากให้นักลงทุนระมัดระวังและอยากกังวลกับปัญหาดังกล่าว

               ด้านนายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการเงินทุนบุคคลบริษัทหลักทรัพย์กสิรไทย จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับลงแรง มีสาเหตุจากทั้งปัจจัยในประเทศและปัจจัยต่างประเทศ ประกอบกับราคาหุ้นไทยค่อนข้างแพง เมื่อดัชนีขึ้นมาเหนือระดับ 1,500 จุด เมื่อเกิดข่าวเชิงลบมากระทบ นักลงทุนก็พร้อมจะเทขายเพื่อลดความเสี่ยงทัน โดยมองเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยในปีนี้อยู่ที่ 1,530 จุด หรือระดับอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิที่ 14-16 เท่า ซึ่งดัชนีมีแนวรับสำคัญที่ 1,438 จุด ส่วนเป้าหมายหุ้นไทยในปี 2560 อยู่ที่ 1,540 จุด ระดับอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิที่ 13-15 เท่า ดังนั้น การลงทุนควรจะเก็งกำไรในระยะสั้น และมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นประมาณ 40% และถือเงินสด 60%

               ขณะที่นายคเณศ วังส์ไพจิตร ผู้อำนวยการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน ประจำเดือนตุลาคม 2559 ลดลงมาอยู่ที่ 103.84 จุด หรือลดลง 26.19% เป็นการปรับตัวลดลงในทุกกลุ่ม โดยนักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อมั่นลดลงมากที่สุดมาอยู่ที่ 100.00 จุด หรือลดลง 36.36% ส่วนนักลงทุนรายบุคคล อยู่ที่ 103.31 จุด หรือลดลง 25.50% และสถาบันในประเทศอยู่ที่ 112.00 จุด หรือลดลง 13.45% ซึ่งนักลงทุนมองว่าปัจจัยลบเป็นเรื่องนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ ที่จะสร้างความผันผวนและสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศ รวมไปถึงสถานการณ์การเมืองที่อาจส่งผลเชิงลบต่อตลาดทุนไทย

               ส่วนดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า หรือเดือนธันวาคม 2559 ปรับตัวลดลง 26.19% จากระดับ 140.68 จุด เหลือ 103.84 จุด ยังอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว มีปัจจัยหลักมาจากการที่สหรัฐส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อาจส่งผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุนจากประเทศตลาดเกิดใหม่ โดยความเชื่อมั่นปรับลดลงทุกกลุ่ม 

               นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ รองผู้อำนวยการ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย(ทีเอ็มบี) กล่าวว่า เงินบาทเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2559 อ่อนค่าลงค่อนข้างมาก โดยช่วงเช้าเปิดตลาดที่ 34.95 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ก่อนจะมาปิดตลาดที่ราวๆ 35.06 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่ออกมาในตลาดบอนด์

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ