สำรวจใช้จ่ายช่วงเทศกาลกินเจ คาดมีเงินสะพัดเฉียด 4.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.2% จากปีก่อน ขยายตัวสูงสุดรอบ 3 ปี แนวโน้มรักสุขภาพช่วยหนุน
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลกินเจ โดยประเมินว่าช่วงเทศกาลกินเจปีนี้ ระหว่างวันที่ 1 - 9 ตุลาคม 2559 คาดว่าจะมีเงินสะพัด 43,981 ล้านบาท ขยายตัว 4.2% นับเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบ 3 ปี คิดเป็นใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนที่ 9,700.30 บาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อนที่มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัสที่ 9,669.13 บาท
ทั้งนี้ จาการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 1,206 ตัวอย่างทั่วประเทศ พบว่าส่วนใหญ่ หรือ 64.5% ระบุว่าไม่กินเจในช่วงเทศกาล เพราะไม่ใช่เชื้อสายจีน , อาหารเจแพง , ไม่มีความตั้งใจจะกิน , ที่บ้านไม่มีใครกิน , เศรษฐกิจไม่ดี และหาซื้อลำบาก ส่วนที่เหลืออีก 35.5% ระบุว่าจะกินเจ โดยกินเจเฉพาะช่วงเทศกาล , ตั้งใจทำบุญ ลดหารกินเนื้อสัตว์ สืบทอดวัฒนธรรม อาหารเจมีคุณค่าทางอาหาร ชอบอาหารเจ กินเจทุกวันอยู่แล้ว และกินตามคนที่บ้านหรือคนรอบข้าง
“เงินสะพัดในการกินเจปีนี้ขยายตัวดีสุดในรอบ 3 ปี นับตั้งแต่ปี 2557 ที่ขยายตัว 2.1% ปี 2558 ขยายตัว 2.9% ทำให้มองว่ามีความคึกคัก และเพราะคนนิยมทานเจมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่ทานอาหารเจก็หันมาทานอาหารเจมากขึ้น ประกอบกับคนมีความตั้งใจที่จะทำบุญ และแนวโน้มการรักสุขภาพเข้ามาเกี่ยวข้อง”
สำหรับลักษณะการบริโภคอาหารเจในปีนี้ กลุ่มอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่จะซื้อของมาทำกินเอง และกลุ่มอายุระหว่าง 16 - 49 ปี ส่วนใหญ่จะซื้ออาหารปรุงสำเร็จ ขณะที่รูปแบบการเลือกซื้ออาหารเจ ลำดับแรก จะซื้อที่ตลาด จากนั้นก็เป็นที่ร้านค้าทั่วไป มหกรรมสินค้าราคาถูกในช่วงเทศกาล ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ/ร้านค้าส่ง ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ห้างค้าส่งขนาดใหญ่ ซื้อผ่านสื่อออนไลน์ที่มีบริการจัดส่ง และซื้อผ่านคอลล์ เซ็นเตอร์ ที่มีการจัดส่ง ตามลำดับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง