ข่าว

ลาวเลิกช่องความถี่กวนคลื่นดิจิทัลอสมท

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ลาวยอมยุติใช้งานช่องความถี่ 41 หลังพบรบกวนคลื่น อสมท ในพื้นที่ จ.นครพนม พร้อมร่วมมือตรวจสอบคลื่นความถี่แก้ปัญหาสัญญาณรบกวน


               พลอากาศตรี ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ รองเลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า การที่ประเทศเพื่อนบ้านแต่ละประเทศไม่มีการกำหนดแผนและจัดสรรคลื่นความถี่ร่วมกัน ทำให้ขณะนี้ในบางพื้นที่ที่อยู่บริเวณชายแดน เกิดปัญหาคลื่นรบกวน ซึ่งการประชุมร่วมทางเทคนิคว่าด้วยการประสานงานและจัดสรรคลื่นความถี่ตามแนวชายแดนระหว่างประเทศไทย และ สปป.ลาว ครั้งที่ 7 ได้มีผู้แทนทั้งหน่วยงานภาครัฐและผู้ประกอบการภาคเอกชนทั้งในส่วนของกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรคมนาคมหารือร่วมกัน โดยในที่ประชุมฝ่ายไทยได้แจ้งปัญหาโครงข่าย (MUX) ของ อสมท ในพื้นที่ จ.นครพนม ถูกรบกวน

               ทั้งนี้ เกิดจาก สปป.ลาว ออกอากาศดิจิทัลทีวีด้วยช่องความถี่ที่ตรงกันคือ ช่อง 41 ในย่าน 630 - 638 MHz ส่งผลให้ประชาชนบริเวณ จ.นครพนม และพื้นที่ใกล้เคียงไม่สามารถรับชมช่องรายการที่ออกอากาศผ่าน MUX ของ อสมท ได้ ซึ่งผลการเจรจา สปป.ลาว ยินดีให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหา โดยยุติการใช้งานช่องความถี่ 41 ในพื้นที่ที่อยู่ตรงข้าม จ.นครพนม

               นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ให้ไทย และ สปป.ลาว ตกลงให้มีการร่วมตรวจสอบด้วยรถตรวจสัญญาณ เพื่อนำค่าที่ได้จากการทดสอบมาปรับลดสัญญาณคลื่นความถี่ 850 MHz ในระบบ WCDMA ที่ไปกวนคลื่นความถี่ 900 MHz ในระบบ GSM ของ สปป.ลาว ซึ่งที่ผ่านมาเป็นปัญหาการรบกวนที่ไม่สามารถแก้ปัญหาให้หมดไปได้จนกว่าคลื่นความถี่ 850 MHz จะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี 2561 เนื่องจากในทางเทคนิคเป็นการใช้คลื่นย่านเดียวกันแต่การใช้ของแต่ละประเทศเป็นคนละระบบ ดังนั้นในการประชุมครั้งนี้จึงได้กำหนดให้มีการแจ้งการจัดสรรคลื่นความถี่ตามแนวชายแดนของแต่ละฝ่ายให้รับทราบ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นอีกในอนาคต

               ขณะเดียวกันที่ประชุมยังได้เห็นชอบให้มีการใช้คลื่นความถี่ร่วมกันกรณีเกิดภัยพิบัติระหว่าง 2 ประเทศ ในย่านความถี่ UHF จำนวน 7 ความถี่ และย่านความถี่ VHF จำนวน 1 ความถี่อีกด้วย และประเทศไทยก็ได้เสนอการอบรมการวางแผนคลื่นความถี่ทีวีดิจิตอล และการใช้อุปกรณ์เครื่องมือในการตรวจสอบคลื่นความถี่ ให้แก่ สปป.ลาว ในปีหน้า

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ