
มั่นใจยอดขอบีโอไออุตฯเป้าหมายกระฉูด
อุตฯมั่นใจยอดขอบีโอไอปีหน้าพุ่งแซงปีนี้ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายมาแรง นักลงทุนญี่ปุ่นชิงปักธงทุ่ม 652 ล้านบาท ตั้งโรงงานผลิตอาหารทางการแพทย์แห่งแรกในไทย
นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า แนวโน้มการขอรับส่งเสริมการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายมีเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมอุปกรณ์ทางการแพทย์และยา มีนักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจกันมาก ล่าสุดบริษัท ไทยโอซูก้า จำกัด จากประเทศญี่ปุ่นได้เข้ามาลงทุนตั้งโรงงานผลิตอาหารสำหรับผู้ป่วย เพื่อป้อนตลาดภายในประเทศและส่งออกด้วย พร้อมทั้งมีแผนจะใช้ไทยเป็นฐานในการผลิตอาหารทางการแพทย์ในอนาคต
“เมื่อครั้งที่รองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นำคณะเดินทางไปโรดโชว์ที่ญี่ปุ่น เราได้พบปะผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายแห่งอนาคตที่รัฐบาลต้องการสนับสนุนให้เกิดการลงทุนในประเทศไทย ทางบริษัทโอซาก้าฯ ก็แสดงความสนใจที่จะเข้ามาลงทุน”
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในปีนี้ คาดว่าจะเป็นไปตามที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 5.5 แสนล้านบาท และคาดว่าในปีหน้ายอดขอรับส่งเสริมการลงทุนน่าจะมีมากกว่าปีนี้ เนื่องจากจะเริ่มใช้ พ.ร.บ.ส่งเสริมการลงทุนที่แก้ไขใหม่ ที่เพิ่มการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุดถึง 13 ปี ในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ไทยต้องการดึงเข้ามาลงทุนจริงๆ รวมทั้ง พ.ร.บ.กองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน 1 หมื่นล้านบาท และพ.ร.บ.เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)
ด้านนายชินสึเกะ ยูอาสะ ประธานบริษัทไทยโอซูก้า จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้เข้ามาลงทุนตั้งโรงงานผลิตอาหารสำหรับผู้ป่วยแห่งแรกในไทย มูลค่าลงทุน 652 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำลังผลิตในไทยรวมกว่า 3 พันตันต่อปี โดยจะเดินเครื่องผลิตได้ในวันที่ 28 กันยายนนี้ และขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาจะขยายโรงงานผลิตน้ำเกลือสำหรับผู้ป่วยในไทย มูลค่าการลงทุนประมาณ 900 ล้านบาท เพิ่มจากปัจจุบันที่มีอยู่ 2 โรงงาน ครองสัดส่วนการตลาดในไทยอันดับ 1 กว่า 40%
“การที่รัฐบาลไทยออกมาตรการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเครื่องมือการแพทย์ ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก และมาตรการส่งเสริมที่ออกมาก็ตรงกับความต้องการของนักลงทุน ทำให้มั่นใจว่าในอนาคตจะมีต่างชาติเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมนี้อีกมาก”