ข่าว

ใช้เงินสด ลดหนี้สิน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์ ขมน้ำตาล หวานบอระเพ็ด โดย...พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ

 

          ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน หันไปทางไหนก็มีแต่คนบ่นกันว่าเศรษฐกิจไม่ดีหากินฝืดเคือง คนที่ทำมาค้าขายก็บ่นว่าต้นทุนทุกด้านแพงขึ้นแต่ขายได้น้อยลง ทำให้เกิดการแข่งขันกันอย่างรุนแรงมากขึ้น ด้วยการสร้างแรงจูงใจให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยกันจ้าละหวั่น เพื่อให้เกิดการซื้อซ้ำๆ หรือใช้บริการบ่อยครั้งมากขึ้น ทางด้านคนทำงานกินเงินเดือนหรือรับค่าจ้างรายชิ้น ก็บ่นกันทั่วหน้าว่าหาเงินได้ชักหน้าไม่ถึงหลัง

          แต่ก็เป็นที่น่าแปลกใจว่าตามสถานบันเทิงและห้างสรรพสินค้า กลับมีผู้คนไปใช้บริการกันไม่ขาดสาย สินค้าและบริการโดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อการครองชีพ กลับจำหน่ายได้มากขึ้นหรืออย่างน้อยก็เท่าเดิม โดยผู้ไปใช้บริการนอกเหนือไปจากผู้ที่มีฐานะการเงินมั่นคงแล้ว ยังมีผู้ที่ใช้เงินในอนาคตจำพวกบัตรเครดิตรวมอยู่จำนวนไม่น้อย สะท้อนให้เห็นถึงผลสำรวจที่ปรากฏออกมาว่าหนี้สินครัวเรือนของคนไทยมีเพิ่มมากขึ้น

          โลกในยุคอดีตที่ผู้คนยังคงจับจ่ายใช้สอยกันด้วยเงินสดนั้น เมื่อเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ผู้คนจะลดการใช้จ่ายลงไปเองอย่างอัตโนมัติ เพราะไม่มีเงินสดในมือให้นำไปซื้อสินค้าหรือบริการใดๆ ได้ แม้ว่าในยุคนั้นจะมีร้านค้าระบบเงินเชื่ออยู่แล้วก็ตาม แต่วงเงินเชื่อก็ให้กันอย่างจำกัดจำเขี่ย อีกทั้งการที่เป็นร้านค้าซึ่งอยู่ในละแวกที่อยู่อาศัยหรือละแวกที่ทำงานเดียวกัน จึงทำให้สามารถรับรู้ขีดความสามารถในการชำระหนี้ได้เป็นอย่างดี ทำให้จำกัดวงเงินสินเชื่อได้ตามความสามารถทางการเงินของแต่ละคนได้อย่างแม่นยำ

          ต่างไปจากในปัจจุบันนี้ ซึ่งคนส่วนใหญ่ใช้เงินอนาคตในรูปของบัตรเครดิต ที่ออกให้โดยสถาบันการเงินมีทั้งที่ตรวจสอบฐานะทางการเงินหรือรายรับของผู้ถือบัตรอย่างเข้มงวด และที่ตรวจสอบกันอย่างหละหลวม ขณะที่การใช้บัตรอย่างมีวินัยหรือไม่นั้นเป็นภาระโดยตรงของผู้ถือบัตร ซึ่งส่วนใหญ่แล้วสถาบันการเงินจะยึดแนวทางอนุมัติบัตรเครดิตกันอย่างหละหลวมมากกว่าที่จะเข้มงวดจริงจังตามกฎกติกา ทำให้คนไทยมีบัตรเครดิตกันมากกว่าคนละหนึ่งใบทั้งที่มีรายได้ไม่มากนัก ส่งผลให้เกิดความฮึกเหิมในการซื้อสินค้าและใช้บริการด้วยวิธีการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต

          ปัญหาหนี้สินที่เกิดขึ้นจะโทษใครอื่นไปไม่ได้ นอกจากต้องโทษผู้บริโภคเองเป็นอันดับแรก ที่หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อการโฆษณาชวนเชื่อ ให้หลงไปซื้อสินค้าและใช้บริการทั้งที่ฐานะทางการเงินของตนเองไม่พร้อม หรือจะบอกว่าเป็นเพราะผู้บริโภคเองที่ตกอยู่เป็นเหยื่อของกิเลสหรือความอยาก บางคนไม่ได้อยากได้สินค้าหรือบริการแต่อย่างใด แต่อยากข้ามขั้นไปถึงของที่จะแลกได้จากการสะสมแต้มในการใช้บัตรเครดิต

          วิธีการป้องกันการใช้จ่ายเงินอนาคตเพื่อเป็นหนทางลดหนี้สินลงทำได้ไม่ยาก ด้วยการหันมาจ่ายเงินสดแทนการใช้บัตรเครดิต เพราะทุกครั้งที่นับเงินสดจากกระเป๋าจ่ายออกไปจะทำให้เราเกิดความรู้สึกได้โดยตรงว่า เงินของเรากำลังร่อยหรอลงไปอย่างเห็นได้ชัด และจะรู้ได้ตามมาว่าเงินของเรายังคงเหลืออยู่อีกกี่มากน้อย ส่งผลให้เราจะเกิดความเสียดาย และทำให้ตัดสินใจในการซื้อสินค้าหรือใช้บริการช้าลงหรือท้ายที่สุดทำให้เราไม่ซื้อสินค้าและบริการที่ไม่จำเป็นลงได้นั่นเองครับ

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ