เครดิตสกอริ่ง (ภาคจบ)

 

        ครั้งที่ผ่านมา ผมมีโอกาสเอาเรื่องเครดิตสกอริ่ง มาเล่าให้ฟัง

        แต่เป็นการเล่าแนวคิดในภาษาที่ง่ายๆ ให้เข้าใจ ด้วยเรื่องนี้เอาจริงๆ แล้ว เป็นเรื่องของตัวเลข สถิติ การทำแบบจำลอง หรือโมเดล ที่เป็นศาสตร์ของการวิเคราะห์มากๆ

        ผมสรุปสั้นๆ ก่อนนะครับ สำหรับคนที่อาจจะไม่ได้อ่านครั้งที่ผ่านมา

        เครดิตสกอริ่ง เป็นเครื่องมือที่แบงก์ หรือสถาบันสร้างขึ้นจากฐานข้อมูลที่มีในอดีต โดยปลายทางจะเป็นโมเดลที่ให้ผลลัพธ์เป็นคะแนน (ที่เรียกว่า “สกอร์”) เครดิตความน่าเชื่อถือของผู้สมัครขอสินเชื่อใหม่ๆ แต่ละราย

        ยิ่งรายไหนได้คะแนนสูงก็แปลว่าดี หากได้คะแนนลดลงมา ก็แปลว่าดีน้อยหน่อย มีความเสี่ยงแนวโน้มในการชำระหนี้ในอนาคต

        หลายๆ คนสงสัยหากไม่เคยก่อหนี้มาเลย และไม่มีข้อมูล ไม่มีประวัติในเครดิตบูโร เมื่อขอกู้ครั้งแรก จะได้คะแนนส่วนนี้สูงหรือต่ำ?

        ตอบตรงไปตรงมา คะแนนเป็นไปได้ทั้งนั้น จะสูงหรือต่ำก็ได้

        เพราะโมเดลหรือแบบจำลองนี้ เป็นเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ ที่แต่ละที่ทำจากฐานข้อมูลที่มี ของตนเอง ตัวแปรต่างๆ ก็มาจากข้อมูลของตน

        รวมถึงแต่ละสถาบันอาจให้คะแนนออกมาต่างกัน หรือคล้ายกัน

        ดีที่สุด มองในฟากสถาบันการเงิน โมเดลที่ว่า จึงต้องมีการสอบทาน และมีการอัพเดตเป็นระยะๆ ไม่มีใครที่ไหนที่สร้างมาครั้งแรก และจะใช้ตลอดไป โดยไม่ปรับ

        เพราะอาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือ และทำให้สถาบันการเงินเสียโอกาสจากการไม่ได้ปล่อยสินเชื่อคนดีๆ หรือดันไปปล่อยคนที่เสี่ยงก็ได้

        ยิ่งกว่านั้น คะแนนที่ได้ ไม่ใช่เป็นคำตอบสุดท้ายเสมอไป แต่ละที่ แต่ละสถาบัน ย่อมมีหลักเกณฑ์อื่นๆ มาประกอบการตัดสินใจในการปล่อยสินเชื่อ

        ซึ่งทั้งหมดทั้งมวล จึงขึ้นอยู่กับนโยบายความเสี่ยงที่ยอมรับได้ รวมถึงดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมที่ได้รับว่าจะคุ้มค่ากับความเสี่ยงนั้นๆ หรือไม่

        มองในด้านของผู้บริโภค เราควรทำอย่างไร

        สั้นๆ ง่ายๆ ครับ ไม่ก่อหนี้ที่ไม่เกิดประโยชน์ ไม่พยายามเป็นหนี้โดยไม่จำเป็น หนี้ที่ดี คือหนี้ที่มีไว้เพื่อการสร้างอนาคต เป็นหนี้ที่ทำแล้ว ได้สิ่งดีๆ กลับมาให้เรา เช่น หนี้บ้าน หนี้การศึกษา

        บัตรเครดิต บัตรสินเชื่อ มีได้ แต่ใช้อย่างมีสติ และเลือกใช้บัตรให้ชาญฉลาด ใช้โดยดูสมดุลของรายได้ กับรายจ่าย

        บัตรเครดิต คือเงินในอนาคต จึงต้องมีความระมัดระวัง และบริหารการใช้ให้เกิดประสิทธิภาพที่สุด เพื่อไม่ให้ต้องเป็นหนี้สินล้นพ้นตัวในภายหลัง

        ที่สำคัญกว่านั้น คือต้องมีวินัยอย่างมาก โดยวินัยการชำระเงินสำคัญที่สุด ควรชำระให้เป็นกิจจะลักษณะ และชำระให้ตรงเวลา

        เพราะหากเบี้ยว หนี หรือไม่จ่าย สุดท้ายจะมีผลต่อข้อมูลในเครดิตบูโร และทำให้ประวัติของเราไม่ดี มีผลต่อการสร้างหนี้อื่นๆ ในอนาคต

        ผมว่า เราเลือกเกิดไม่ได้ครับ

        แต่เครดิต สร้างได้ครับ

        เครดิตดีๆ อยู่ในมือเรา ไม่ใช่อื่นไกล ใครก็ช่วยสร้างให้เราไม่ได้ครับ