‘พลังประชารัฐ’กุญแจการพัฒนาการศึกษาไทย

        วันนี้โครงการสานพลังประชารัฐในเกือบทุกด้านได้ถูกขับเคลื่อนไปสู่ภาคปฏิบัติอย่างน่าติดตาม ด้วยพลังของภาครัฐและภาคเอกชนที่ร่วมไม้ร่วมมือกันทำงานอย่างแข็งขัน ยกตัวอย่างโครงการสานพลังประชารัฐ ด้านการศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นำ เท่าที่ติดตามมีความคืบหน้าไปมาก ในฐานะคนไทยคนหนึ่งรู้สึกดีใจ เพราะการศึกษาเป็นฐานรากที่สำคัญในการพัฒนาประเทศ เป็นการเตรียมคนให้มีความพร้อมที่จะรับมือกับความท้าทายและความเสี่ยงที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต

        หลังจากที่ 12 องค์กรเอกชนไทย เปิดตัวคอนเน็กซ์-อีดี โครงการผู้นำเพื่อการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน โดยใช้ศักยภาพของผู้นำรุ่นใหม่ 1,000 คนเข้าร่วมวางแผนพัฒนาการศึกษา กับผู้บริหารโรงเรียน 3,342 โรงเรียนทั่วประเทศในปีนี้ และวางแผนขยายให้ครบ 7,424 โรงเรียนทุกตำบล ภายในปี 2561 เพื่อสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงความรู้ เพิ่มโอกาสในการเรียนรู้ และพัฒนาตนเอง ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ใด มีความเป็นอยู่อย่างไร ก็ควรจะได้รับโอกาสที่เท่าเทียมกัน

        ล่าสุด 12 องค์กรเอกชนไทยได้เตรียมจัดประชุมเชิงปฏิบัติการในช่วงต้นเดือนกันยายน เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่ผู้นำรุ่นใหม่ 1,000 คนที่จะร่วมกันสร้างโอกาสให้แก่เด็กไทยในการพัฒนาตนเอง ก่อนลงพื้นที่เดินหน้าพัฒนาการศึกษาไทยไปสู่ความยั่งยืน

        ความน่าสนใจโครงการนี้อยู่ที่พลังร่วมของ 12 องค์กรชั้นนำของประเทศซึ่งล้วนมีศักยภาพ ที่จะทำหน้าที่ School Partners และ School Sponsor ให้แก่โรงเรียนทั่วประเทศ ประกอบด้วย บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น, บมจ.ซีพีออลล์, บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร, บมจ.ปตท., บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย, บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ, บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์, บมจ.น้ำตาลมิตรผล, กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารไทยพาณิชย์, บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป โดยมีภาครัฐทำหน้าที่อำนวยความสะดวกให้แก่คณะทำงานทั้งภาคเอกชนและภาคประชาสังคมที่เข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาการศึกษาด้านต่างๆ นับเป็นการใช้ศักยภาพของทุกภาคส่วนเพื่อร่วมผนึกกำลังเป็นพลังขับเคลื่อนประเทศอย่างแท้จริง

        โครงการคอนเน็กซ์-อีดี ถือเป็นมิติใหม่ในการพัฒนาการศึกษา ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศมาก ดูจากแนวทางการทำงานที่ ศุภชัย เจียรวนนท์ ในฐานะหัวหน้าทีมภาคเอกชน ได้เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า โครงการนี้ได้วางกรอบการพัฒนาการศึกษาไว้อย่างครอบคลุม โดยจะทำหน้าที่หลักๆ 2 ประการ คือ เป็น School Partners ให้แก่สถานศึกษาทั่วประเทศ

        ส่วนกรอบการดำเนินงานของ School Partners ได้กำหนดไว้ 3 ด้าน คือ 1.สนับสนุนการดำเนินงานของผู้บริหารสถานศึกษาให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ (Enable) 2.ร่วมเสนอแนวทางพัฒนาโรงเรียนเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชน (Enhance) 3.สร้างการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองและชุมชน (Engage) ซึ่งทั้งสามด้านนี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยพัฒนาการศึกษาในโรงเรียนทั่วประเทศ

        ต่อไปในอนาคต คำถามที่ว่า การศึกษาไทยจะไปทางไหนดี? คงจะเลือนหายไปจากประเทศไทย เพราะแนวทางการพัฒนาการศึกษาวันนี้มีความชัดเจน และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ซึ่งจะช่วยสร้างคน เพื่อสร้างเศรษฐกิจให้ก้าวไปสู่ความมั่นคงและยั่งยืน