ระดมผู้ผลิตอิสระร่วม'เนชั่นทีวี-NOW'

              หลังจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) รับรองรายชื่อ 17 บริษัทผู้ชนะประมูลโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ทีวีดิจิตอล) ประเภทบริการธุรกิจ 24 ช่อง ซึ่งประกอบไปด้วยช่องวาไรตี้ เอชดี 7 ช่อง, วาไรตี้ เอสดี 7 ช่อง, ช่องข่าว 7 ช่อง และช่องเด็ก 3 ช่อง โดยเตรียมมอบใบอนุญาตระยะเวลา 15 ปี ในเดือนมีนาคม พร้อมกำหนดกรอบเวลาการออกอากาศทีวีดิจิตอลภาคพื้นที่ในเดือนเมษายนนี้ นับเป็นการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมสื่อโทรทัศน์จากระบบอนาล็อกสู่ระบบดิจิตอลครั้งแรกในรอบ 58 ปี
 
              เมื่อวันที่ 10 มกราคม เครือเนชั่นเชิญผู้ผลิตรายการ ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรผลิตรายการทางช่องเนชั่น แชนแนล และสื่อในเครือ ประมาณ 70 ราย มาร่วมเสนอความคิดเห็นการก้าวสู่ยุคทีวีดิจิตอลของเครือเนชั่น
 
              นายสุทธิชัย หยุ่น ประธานเครือเนชั่น กล่าวว่า ปรากฏการณ์ "ทีวีดิจิตอล" ที่กำลังจะเริ่มออกอากาศในปีนี้ ถือเป็นการปฏิรูปอุตสาหกรรมสื่อโทรทัศน์ครั้งสำคัญ เครือเนชั่นมองเห็นโอกาสจากการจัดสรรคลื่นความถี่โทรทัศน์ดังกล่าว จึงเข้าร่วมประมูลทีวีดิจิตอลช่วงปลายปีที่ผ่านมา และเป็นผู้ชนะประมูล 2 ช่อง คือ ช่องวาไรตี้ เอสดี และช่องข่าว 
 
              นายสุทธิชัย กล่าวต่อว่า การเกิดขึ้นของทีวีดิจิตอลจะทำให้สนามการแข่งขันฟรีทีวีที่ผูกขาดมากว่า 50 ปี กลายเป็นสนามแข่งขันที่เท่าเทียมและเปิดเวทีกว้างสำหรับผู้ผลิตรายการที่มีคุณภาพและความสามารถ แต่สิ่งท้าทายจากนี้ คือ การนำเสนอคอนเทนต์ ที่ต้องตอบโจทย์ผู้ชม หลังจากช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมโทรทัศน์ไม่เปิดโอกาสให้กลุ่มผู้ผลิตรายการที่มีความสามารถและความมุ่งมั่นมีพื้นที่แสดงออกมากนัก
 
              "นับเป็นสิ่งที่อัดอั้นสำหรับคนในแวดวงอุตสาหกรรมทีวี ในการหาเวทีนำเสนอคอนเทนต์เชิงสร้างสรรค์ กระทั่งก้าวมาสู่จังหวะของการจัดสรรคลื่นความถี่ทีวีดิจิตอลในยุคนี้ ที่ถือเป็นการปฏิรูปวงการทีวี พร้อมเปิดกว้างให้ผู้ผลิตคอนเทนต์ในการแสดงศักยภาพด้านการผลิต ที่สามารถแข่งขันได้กับทุกประเทศ" นายสุทธิชัย กล่าว  

ดึงผู้ผลิตร่วมจอ
 
              นายสุทธิชัย กล่าวว่า เครือเนชั่นมีนโยบายเปิดกว้างสำหรับผู้ผลิตรายการกลุ่มพันธมิตรเนชั่น ที่ร่วมงานกันมากว่า 10 ปี กับช่องเนชั่น แชนแนล รวมทั้งผู้ผลิตรายการอิสระทุกราย ที่มีความมุ่งมั่นเพื่อร่วมสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่มีคุณภาพ เพราะจากประสบการณ์การศึกษาคอนเทนต์ทีวี ทั้งในกลุ่มอาเซียน ญี่ปุ่น เกาหลี จีน สหรัฐ ยุโรป เชื่อว่าความสามารถด้านการสร้างสรรค์และการผลิตของคนไทยสามารถแข่งขันได้กับทุกประเทศ แต่ที่ผ่านมาผู้ผลิตไม่มีโอกาสและเวทีแสดงความสามารถในการนำเสนอรายการ เนื่องจากสนามแข่งขันยังไม่เท่าเทียมกัน แต่เชื่อว่านับจากนี้ภายใต้สนามแข่งขันและกติกาเดียวกัน ผู้ที่จะเข้าเส้นชัยจะไม่ใช่รายเก่าแน่นอน
 
              "ต้องการเชิญชวนเพื่อนและพันธมิตรของเครือเนชั่น มาร่วมกันสร้างสรรค์คอนเทนต์ผ่านหน้าทีวีดิจิตอลของเนชั่นทั้ง 2 ช่อง ที่พร้อมเป็นเวทีเปิดกว้างสำหรับทุกคนในการสร้างผลงานที่โดดเด่น และแตกต่างจากช่องทีวีที่มีอยู่ในปัจจุบัน" นายสุทธิชัย กล่าว

จัดเวที"ไอเดียเฟสติวัล"
 

              นายสุทธิชัย กล่าวด้วยว่า สื่อโทรทัศน์มีความสำคัญต่อการสร้างสรรค์สังคม เชื่อว่าการสร้างประเทศชาติ การปลูกฝังแนวคิดประชาธิปไตย การสร้างค่านิยมต่อต้านคอร์รัปชั่น และการให้ความรู้แก่กลุ่มเยาวชน จะต้องมาจากสื่อที่ดี ปัจจุบันประเทศไทยมีวัตถุดิบที่สามารถนำมาต่อยอดสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ดี ทั้งสารคดี ท่องเที่ยว รายการแนวเศรษฐกิจ รายการความรู้ที่สนุกสนาน สาระด้านไอที สิ่งแวดล้อม เป็นต้น อีกคอนเทนต์ที่จะนำเสนอผ่านจอทีวีดิจิตอลทั้ง 2 ช่องของเนชั่น คือ รายการเด็ก เน้นคอนเทนต์สารประโยชน์สำหรับเยาวชน
 
              ประธานเครือเนชั่น กล่าวว่า จากนี้การออนแอร์ทีวีดิจิตอลทั้ง 24 ช่อง สิ่งที่ท้าทายและตัดสินว่ารายใดจะอยู่รอดได้ คือ คุณภาพ และเนื้อหาสาระที่ตอบโจทย์ผู้ชมมากที่สุด รวมทั้งการทุ่มเทให้ความสำคัญและมุมมองเชิงสร้างสรรค์ต่อผู้ชมและสังคม ภายใต้ภูมิทัศน์สื่อที่เปลี่ยนไปในยุคเปิดเสรีฟรีทีวี และเวทีที่เปิดกว้าง ได้ก้าวมายุคที่ "เจ้าของ" ช่องทีวี ต้องให้ความสำคัญกับผู้ผลิต 
 
              "ต้องการให้กลุ่มพันธมิตรเครือเนชั่นร่วมเป็นครอบครัวเดียวกันในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ผ่านทีวีดิจิตอลไปพร้อมกันทั้ง 2 ช่อง เพื่อสร้างโทรทัศน์ในยุคใหม่ ตอบโจทย์ผู้ชม โฆษณา และอุตสาหกรรมกำลังเปลี่ยนสู่ยุคดิจิตอล และสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการทีวีไปพร้อมกัน" นายสุทธิชัย กล่าว
 
              หลังจากนี้เนชั่นจะจัดเวทีมหกรรมไอเดีย หรือ Idea Festival อย่างต่อเนื่อง เพื่อเปิดกว้างการนำเสนอไอเดียสร้างสรรค์ จากกลุ่มผู้ผลิตรายการ ทั้งกลุ่มพันธมิตรเดิม กลุ่มผู้จัดอิสระ และไอเดียจากโลกออนไลน์ และโซเชียลมีเดีย เพื่อมาร่วมกันคิดและสร้างสรรค์ไอเดียรายการที่ผู้ชมต้องการรับชมผ่านหน้าจอทีวีดิจิตอลของเนชั่น

เปิดตัวสตูดิโอกลางเมือง
 
              นายสุทธิชัย กล่าวอีกว่า ทีวีดิจิตอล 2 ช่องที่เนชั่นชนะประมูล สำหรับ "ช่องข่าว" คือช่องเนชั่น แชนแนล ในปัจจุบันที่ออกอากาศมากว่า 13 ปี เมื่อเปลี่ยนสู่แพลตฟอร์มทีวีดิจิตอลจะเปลี่ยนชื่อเป็น "เนชั่น ทีวี" ภายใต้คอนเซ็ปต์ "ช่องข่าว 24 ชั่วโมง" นำเสนอข่าวที่มีการวิเคราะห์รอบด้าน ทุกสถานการณ์ข่าวสำคัญ ส่วน "วาไรตี้ เอสดี" ใช้ชื่อว่า ช่อง NOW คอนเซ็ปต์ Biz Life Variety นำเสนอรายการประเภทวาไรตี้ทันสมัย มีสาระ สร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ชม หรือรูปแบบรายการวาไรตี้คุณภาพ 
 
              พร้อมกันนี้เนชั่น ทีวี จะเปิดตัวสตูดิโอกลางเมือง หรือ ดาวน์ทาวน์ สตูดิโอ บริเวณชั้น 1 อาคารสยามดิสคัฟเวอรี่ ซึ่งจะใช้เป็นสตูดิโอออกอากาศในช่วงแรก 6 เดือน ตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้ จากนั้นจะย้ายสตูดิโอใหม่ไปยังใจกลางเมืองย่านถนนสาทร บริเวณสถานีรถไฟฟ้าสุรศักดิ์ โดยใช้ชื่อว่า "เนชั่น บรอดแคสติ้ง เฮ้าส์" (Nation Broadcasting House) ที่จะเริ่มออกอากาศในเดือนมิถุนายนนี้
 
              "การก้าวสู่ทีวีดิจิตอลในปีนี้ เป็นสิ่งที่เครือเนชั่นเตรียมตัวมา 42 ปี เพื่อทำทีวีช่องข่าวมืออาชีพ ที่น่าเชื่อถือ และพร้อมก้าวไปกับพันธมิตรผู้ร่วมผลิตรายการกับเนชั่น" นายสุทธิชัย กล่าว
 
              สำหรับเวทีพบปะกับผู้ร่วมผลิตรายการกับเครือเนชั่น เมื่อวันที่ 10 มกราคม ผู้ร่วมผลิตรายการได้แสดงความยินดี พร้อมร่วมเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับเนื้อหารายการใน 2 ช่องทีวีดิจิตอลของเครือเนชั่นอย่างน่าสนใจ และจะได้นำเสนอต่อสาธารณะในเวลาอันใกล้นี้