ราคาผักขยับรับเทศกาลกินเจ

          วันที่ 12 ต.ค.55 ผู้สื่อข่าวรายงานราคาผักสดที่วางขายในตลาดร่วมใจ ตลาดสดเทศบาล 6 อ.เมือง จ.พิษณุโลก พบว่า มีผักสดหลายชนิด ได้ปรับราคาสูงขึ้นมาก เมื่อเทียบกับช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา อาทิ ผักคื่นฉ่าย จำหน่ายราคากก.ละ 220 บาท จากเดิมจำหน่ายกก.ละ 180 บาท ต้นหอม กก.ละ 80 บาท จากเดิมราคากก.ละ 50-60 บาท ส่วนบางตัวได้ปรับราคาขึ้นสูงและขยับราคาลงแล้ว ได้แก่ ผักคะน้า กก.ละ 50 บาท จากเดิมกก.ละ 60 บาท ผักชี ราคากก.ละ 120 บาท จากเดิมราคา กก.ละ 150 บาท
 
          แม่ค้าผักสดในตลาดร่วมใจ เปิดเผยว่า ราคาผักที่ปรับขึ้นลงไม่เกี่ยวกับเทศกาลกินเจที่กำลังจะมาถึง สาเหตุเนื่องจากการผลิตผักออกสู่ตลาดน้อยลง ในช่วงปลายฤดูฝนที่ฝนลงหนัก ผักจากแหล่งผลิตออกสู่ตลาดน้อยลง เป็นวัฏจักรของราคาผักสดที่เป็นประจำทุกปี หลังจากนี้เมื่อฝนทิ้งช่วงแล้ว ผักจากแหล่งผลิตจะออกสู่ตลาดมากขึ้น และราคาก็จะปรับตัวลดลง
 
          ขณะที่แหล่งผลิตผักรายใหญ่ที่ต.บึงพระ อ.เมืองพิษณุโลก นางปรีดา ธูปบูชา อายุ 60 ปี เกษตรกรรายหนึ่งเปิดเผยว่า ในช่วงปลายฤดูฝน แปลงผักก็จะได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี แต่ในปีนี้ยอมรับว่า ราคาผักแพงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาหลายเท่าตัว อย่างเช่น ผักคะน้า ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ราคาขายอยู่ที่ 5 กิโลกรัม 60-70 บาท แต่ในปีนี้ ผักคะน้า ราคาพุ่งสูงถึง 200 บาท ต่อ 5 กิโลกรัม สาเหตุคาดว่า เกษตรกรหลายราย ทิ้งแปลงผักให้ร้าง ไม่ปลูกผักในระยะนี้ เนื่องจากมีความเสี่ยง จากสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย ไม่เพียงพอกับความต้องการ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลกินเจที่จะมาถึง ที่ตลาดจะมีความต้องการผักมากกว่าช่วงเวลาปกติ ก็จะส่งผลให้ราคาผักแพงขึ้นไปอีก




ตรังพืชผักก่อนกินเจขาดตลาด-ราคาแพง

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการออกสำรวจสถานการณ์การซื้อขายพืชผัก ในตลาดสดเทศบาลนครตรัง ในช่วงก่อนที่จะถึงงานประเพณีถือศีลกินเจ หรือถือศีลกินผัก ประจำปี 2555 ระหว่างวันที่ 14-23 ตุลาคมนี้ ซึ่งปรากฎว่า ราคาพืชผักได้ปรับตัวสูงขึ้นกว่าปีที่แล้ว 10-20 % แถมยังขาดตลาด โดยที่ไม่สามารถหาซื้อได้อย่างเช่นในช่วงปกติ จนสร้างผลกระทบให้กับผู้บริโภคไม่น้อย
         
          นางมนฤดี ไชยเดช แม่ค้าแผงจำหน่ายพืชผักรายใหญ่ ในตลาดสดเทศบาลนครตรัง กล่าวว่า ไม่เคยมีช่วงงานประเพณีถือศีลกินเจปีไหน ที่ราคาพืชผักสูงขึ้นขนาดนี้ อย่างเมื่อปี 2554 คื่นฉ่าย จะมีราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 70 บาท หรือต้นหอม จะมีราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 100 บาท แต่ในปี 2555 กลับเพิ่มสูงขึ้นนับเท่าตัวเลยทีเดียว โดยคึ่นฉ่าย ปรับราคาจากปกติกิโลกรัมละ 100 บาท เป็น 140 บาท และต้นหอม ปรับราคาจากปกติกิโลกรัมละ 150 บาท เป็น 250 บาท หรือคะน้า ปรับราคาจากกิโลกรัมละ 25 บาท เป็น 60 บาท รวมถึงพืชผักอื่นๆ ทุกชนิดที่นิยมนำมาใช้ปรุงเป็นอาหารเจ
       
          ทั้งนี้ สาเหตุเกิดขึ้นมาจากการที่แหล่งเพาะปลูกในภาคกลาง ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม หรือฝนที่ตกชุกอย่างต่อเนื่อง ส่วนในพื้นที่ภาคใต้เอง เช่น จังหวัดพัทลุง หรือจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเคยปลูกพืชผักส่งมาขายจังหวัดตรังในช่วงงานประเพณีถือศีลกินเจ ก็ประสบปัญหาจากสถานการณ์ดินฟ้าอากาศ ทั้งฝนมาก ฝนน้อย ทำให้เหลือแหล่งจำหน่ายพืชผักเฉพาะที่จังหวัดราชบุรีเท่านั้น แต่เมื่อทุกๆ จังหวัดต่างก็สั่งซื้อสินค้าเข้าไปเป็นจำนวนมาก จึงมีปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการที่จะนำมาใช้บริโภค ส่งผลให้เกิดภาวะพืชผักขาดแคลนอย่างหนัก และมีราคาสูง
         
          นอกจากนั้น ในปีนี้ยังมีผู้คนหันมารับประทานอาหารเจกันมากขึ้นด้วย โดยบางรายเริ่มรับประทานตั้งแต่ช่วงก่อนจะถึงเทศกาล หรือตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมาแล้ว จึงยิ่งทำให้มีปริมาณการใช้พืชผักสูงมากขึ้นไปอีก ขนาดศาลเจ้าบางแห่งมาขอสั่งซื้อ ทางแผงก็ไม่มีสินค้าจะส่งไปให้ได้ ซึ่งสถานการณ์จะเป็นเช่นนี้ต่อเนื่องกันไปประมาณ 15 วัน อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านพ้นช่วงงานประเพณีถือศีลกินเจไปแล้ว หรือประมาณปลายเดือนตุลาคมนี้ ราคาพืชผักก็จะกลับมาอยู่ในภาวะปกติอีกครั้ง




ลำพูนราคาผักพุ่งรับเทศกาลกินเจ

          ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศทั่วไปที่ตลาดเทศบาลเมืองลำพูน หรือตลาดสดหนองดอก ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน มีประชาชนมาจับจ่ายซื้อของเพื่อเตรียมตัวต้อนรับสู่เทศกาลกินเจซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 15-24 ตุลาคม 2555 ถึงจะไม่มากนักก็ตาม พ่อค้าแม่ค้าที่ขายผักสดต่างบ่นเสียงเดียวกันว่าราคาแพงมาก
 
          นางภัทรา  เขียวธง อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 33/1 บ้านสารบ้านตอง หมู่ที่ 4 ตำบลเวียงยอง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เล่าว่า ป้ามีอาชีพขายผักมาแล้วเกือบ 13 ปี ในอดีตขายผักดีรายได้งามลูกค้าเยอะ แต่มาวันที่ 12 ตุลาคม ยอมรับว่าผักมีราคาแพงมากจากปกติ เพราะฝนตกน้ำท่วมพื้นที่ปลูกผักส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบ ประกอบกับอากาศแปรปรวน ยิ่งใกล้เข้าสู่เทศกาลกินเจด้วยแล้ว อาจทำให้ผักบางชนิดขาดตลาด ราคาแพงมากขึ้นเท่าตัว ทั้งนี้ราคาจะแพงหรือไม่นอกจากจะขึ้นอยู่กับดินฟ้าอากาศแล้ว คนปลูกผักก็เป็นปัจจัยสำคัญ เพราะต้นทุนไม่ว่าจะน้ำ ปุ๋ยชีวภาพ การเก็บเกี่ยว ผลกระทบและความเดือดร้อนจากฝนตกน้ำท่วม ผักเน่าตายเป็นจำนวนมาก ผักส่วนใหญ่ป้าไม่ได้ปลูกแต่รับซื้อเขามาอีกทีที่ตลาดสี่แยกประตูลี้ ซึ่งอยู่ไม่ห่างไกลมากนักถือเป็นแหล่งที่ขายผักมากที่สุดในจังหวัดลำพูนก็ว่าได้
  
          เช่นเดียวกับนางจันทร์เพ็ญ  ปันอุโมงค์ อายุ 51 ปี บ้านเลขที่ 203/1 บ้านเชตวันหนองหมู หมู่ที่ 8 ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ที่มีอาชีพขายผักมานาน 18 ปี เธอเล่าว่า จากอดีตขายดีกำไรอยู่วันละ 200-300 บาท แต่มาเดี๋ยวนี้ราคาแพงมาก ผักที่ลูกค้าซื้อกินเป็นประจำเช่น แตงกวา ต้นหอม ผักคื่นฉ่าย ผักบุ้ง ผักกระเฉด ราคาแพงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวันปกติหรือวันเทศกาลกินเจ ยอมรับว่าราคาแพงมาก ไม่รู้ว่าจะแพงขึ้นกว่านี้อีกหรือไม่ ป้าไม่ได้ปลูก รับซื้อเขามาอีกที โดยคนปลูกเป็นคนที่ 1 คนรับผักมาขายคือตลาดสี่แยกประตูลี้เป็นคนที่ 2 ป้าเป็นคนที่ 3 รายได้จึงไม่มาก จะไปตกอยู่กับคนที่ 1 และ 2 เหตุที่ผักราคาแพง เป็นเพราะอากาศแปรปรวน ฝนตกน้ำท่วมพื้นที่ปลูกผัก
 
          "คนปลูกบ่น คนรับบ่น คนขายบ่น มาถึงลูกค้าหรือผู้บริโภคก็บ่นว่า ผักมีราคาแพง แต่จำเป็นต้องกิน ยิ่งช่วงเทศกาลกินเจที่กำลังจะมาถึง ทำให้ผักขายดีช่วงหนึ่งแต่กำไรไม่ถึงวันละ 100 บาท หรือบางวันขายไม่ได้เลยก็มี หลังจากเทศกาลกินเจผ่านไปแล้ว ราคาผักคงจะถูกขึ้น ยิ่งถึงฤดูหนาวประมาณเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม ยิ่งทำให้ผักขายดีราคาไม่แพง จะถามว่าจะฝากอะไรไปถึงรัฐบาล หรือส่วนราชการหรือไม่ ป้าว่าก็อย่างนั้นแหล่ะ ควบคุมราคาไม่ให้แพงมันเป็นไปไม่ได้ เป็นบางช่วงไม่ถึงกับขึ้นราคาตลอด ไม่งั้นลูกค้าก็จะไม่กินผักกินแต่เนื้สัตว์อย่างเดียว"นางจันทร์เพ็ญกล่าว